เครือข่ายแอลกอฮอล์วอช ร้อง สธ. ชงออกอนุบัญญัติ “ห้ามขายออนไลน์-เดลิเวอรี่”

นายคำรณฯ ตัวแทนเครือข่ายแอลกอฮอล์วอช เข้า ยื่นหนังสือร้อง สธ. คัดค้านขายแอลกอฮอล์ออนไลน์-เดลิเวอรี่ เหตุทำให้เด็กซื้อได้ง่ายขึ้น

จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ค้า หรือ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยื่นหนังสือร้อง กระทรวงมหาดไทย ขอผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แบบเดลิเวอรี่ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (5 มิ.ย. 63) นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) พร้อมด้วย นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ จำนวน 15 คน นำหลักฐาน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้ออกประกาศกำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะออนไลน์ หรือ เดลิเวอรี่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 30(6) เนื่องจากเป็นการมอมเมาเด็ก เยาวชน ประชาชน ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย ไร้ข้อจำกัดเรื่องอายุ และเวลา มุ่งหวังเพียงรายได้ทางธุรกิจไม่สนกฎหมาย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เผยว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทุกจังหวัดได้ออกคำสั่งห้ามไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เพื่อป้องกัน ลดแหล่งมั่วสุม แต่กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หาช่องทางหลบเลี่ยงกฎหมาย ไม่ให้ความร่วมมือ ทำการตลาดขายเหล้าเบียร์ในรูปแบบออนไลน์ แฝงโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการเก็บข้อมูลช่วงโควิด พบว่า ธุรกิจเหล้าเบียร์แทบทุกค่าย รุกทำการตลาดส่งเสริมการขายอย่างหนัก ระบาดตามช่องทางเพจออนไลน์ เดลิเวอร์รี่ส่งตรงถึงหน้าบ้านในช่วงโควิด–19 แม้จะทำเหมือนมีการตรวจสอบอายุผู้ซื้อ หมายเลขโทรศัพท์ แต่ในความเป็นจริง ผู้ซื้ออาจจะเป็นเด็กใช้เบอร์โทรปลอมๆ ของคนที่อายุมากหน่อย ก็ซื้อเบียร์มาดื่มได้แล้ว ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะเด็กและเยาวชนจะเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากขึ้นแน่นอน อีกทั้งเพจ เว็บไซต์ต่างๆ ที่โฆษณาและขายเหล้าเบียร์ออนไลน์ อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ในหลายประเด็น เช่น ขายนอกเหนือเวลาที่กฎหมายกำหนด เพราะจ่ายเงิน รับส่งสินค้า เป็นคนละช่วงเวลา ตามประกาศสำนัก นายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 หรือ ไม่สามารถตรวจสอบอายุของผู้ซื้อได้ ตามมาตรา29(1) ห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และพบว่า มีการแสดงภาพขวดหรือบรรจุภัณฑ์อย่างโจ่งแจ้ง ผิดตาม มาตรา 32 ซึ่งเป็นการพยายามตีความหลบเลี่ยง ท้าทายกฎหมาย เพื่อให้ได้ขายสิ้นค้าทำกำไรอย่างน่าละอายในช่วงวิกฤต เพื่อหยุดปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องมีกฎหมายลูกมาควบคุมให้ชัดเจนไปเลย ด้าน นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันเด็กเยาวชนและประชาชน ขอแสดงจุดยืน และมีข้อเสนอ ดังนี้ 1. ขอให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับบรรดาเพจ เว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการโฆษณา ทำการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.เพื่อป้องกันการตีความเข้าข้างตัวเองเพื่อผลประโยชน์ในทางธุรกิจ ขอให้เร่งออกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีหรือลักษณะการขายแบบออนไลน์ เป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 30 (6) 3.ขอคัดค้านความพยายามครั้งล่าสุด ของสมาพันธ์ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายสุราแห่งประเทศไทย ที่กำลังล่ารายชื่อกดดันให้มีการยกเลิกมาตรา 32 ของพระราชบัญญัติควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เพียงเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ และขอเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทบทวนตัวเองว่า ที่ผ่านมาได้รับผิดชอบสังคมในการลดผลกระทบจากน้ำเมาอย่างไรบ้าง และได้ทำการตลาดภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ 4. เครือข่ายฯ พร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเฝ้าระวัง การกระทำที่ผิดกฎหมายของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย หวังว่าข้อเสนอดังกล่าว จะช่วยป้องกันการเข้าถึงของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อเด็กเยาวชน และลดช่องว่างทางกฎหมาย ที่ทำให้เกิดการตีความเข้าข้างตัวเองของฝ่ายธุรกิจและเป็นปัญหาในการบังคับใช้