ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สั่งผู้ประกอบการรื้อถอนคอกหอยอ่าวบ้านดอน แก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่

แก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ทำประมง! ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สั่งผู้ประกอบการรื้อถอนคอกหอยอ่าวบ้านดอนภายใน 60 วัน หากช้า จนท.จะเข้ารื้อ เจ้าของจะต้องเสียค่าใช้จ่ายและถูกดำเนินคดีทางอาญา

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีชายเจ้าของคอกหอยแครงพื้นที่อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กว่ามีชาวบ้านชาวประมง ขับเรือหางยาวเข้ามาตักเก็บลูกหอยในพื้นที่คอกของตัวเอง และได้ไล่ให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ให้ชาวบ้านรีบออกไปด้วย ต่อมาชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบที่ขนำของชายเจ้าของคอกหอย ก่อนจะมีการควบคุมตัวไปสอบถามข้อเท็จจริงและมีการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องที่ยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งชายเจ้าของคอกหอยก็ได้แจ้งความกับชาวบ้านที่เข้ามาตักเก็บลูกหอยในคอกตัวเองด้วยในเรื่องของการลักทรัพย์ จนกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกัน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวานนี้(12 มิ.ย. 63) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เซ็นต์คำสั่งในประกาศจังหวัดให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่ว่าจะเป็นขนำคอกหอย โฮมสเตย์ หรือสิ่งใดๆที่ได้ก่อสร้างหรือติดตั้งในที่จับสัตว์น้ำในพื้นที่อ่าวบ้านดอนภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศ(12 มิ.ย.63) หากพ้นเวลาที่ทางจังหวัดกำหนด ผู้ว่าราชการจังหวัดจะใช้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ตามาตรา 103 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2528 และแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการรื้อถอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้โดยเคร่งครัดต่อไป อย่างไรก็ตามในพื้นที่อ่าวบ้านดอนในโซนอำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน มีชาวประมงพื้นที่ยังคงหาลูกหอยแครงในเขตพื้นที่ 1,000 เมตรจากฝั่งอยู่ในขณะนี้ ด้านนายพงศ์วิทย์ อินทรไหม เจ้าพนักงานตรวจท่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดสุราษฎร์ธานีภายใต้คณะทำงานภายใต้การแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และทางศรชล 2 เป็นเลขานุการและในส่วนของการดำเนินคดีแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินการไปแล้ว 8 ราย และในวันนี้ทางเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้าตรวจสอบหลักฐานและขนำเพิ่มเติมเพื่อที่จะดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1 ราย สำหรับเฟส 1 ในเขตอำเภอเมืองและอำเภอพุนพินที่จะต้องทำการรื้อถอนจำนวน 160 หลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีแผนออกตรวจอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสอบพื้นที่และดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุก ซึ่งภายใน 2 เดือนนี้ ให้เจ้าของหรือผู้ประกอบการเป็นผู้รื้อถอนเองหลังจากนั้นหากไม่รื้อถอน ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ารื้อถอนและดำเนินคดีทางอาญาทั้งหมด
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน