อาชีพเสริมแท็กซี่ ขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ? เข้าใจนะคะว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่สิ่งที่พวกเรากำลังพยายามป้องกันกันอยู่ก็คือ “โรคระบาด โควิด-19” ไม่ช่วยกันใครจะช่วยเรา
เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย. 63) พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งให้ พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รอง ผบ.กองกำลังบูรพา กำชับกองกำลังชายแดน ส่งชุดปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมทั้งให้เข้มงวดการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบตามแนวชายแดน "ตามช่องทางธรรมชาติ" ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก. ตาพระยา ได้รับแจ้งข่าวจาก ชุดปฏิบัติการข่าวที่ 1 กกล.บูรพา ว่า จะมีแรงงานลักลอบหลบหนีเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ที่บริเวณพื้นที่รับผิดชอบ บ้านกุดเตย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่สังเกตพบรถยนต์ Toyota Altis เป็นรถแท็กซี่เหลือง ทะเบียน ทฬ 1419 กทม. สังเกตพบมีพิรุธ ว่ามีลักษณะบรรทุกหนัก เจ้าหน้าที่จึงบอกให้จอด แต่รถดังกล่าวไม่ยอมจอด จึงได้ทำการไล่ติดตามแล้วบอกให้จอดรถ
กระทั่งรถยอมจอด พบนายประทวน บุญยังแก้ว อายุ 45 ปี ชาว กทม. เป็นคนขับ ตรวจสอบในรถพบแรงงานกัมพูชา จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน และในบริเวณเดียวกันพบรถต้องสงสัยอีก 1 คัน เป็นรถแท็กซี่สีเหลือง เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น พบนายสมบัติ ปิยะวงศ์ อายุ 50 ปี ชาว กทม. เป็นคนขับแท็กซี่ สีเหลือง Innova ทะเบียน ทฬ 8474 กทม. ขนแรงงานต่างด้าว มาจากช่องทางธรรมชาติจำนวน 6 คน ชาย 3 คน หญิง 3 คน เพื่อนำไปส่งจังหวัดชลบุรี หลักสี่ สมุทรปราการ โดยได้ค่าหัวคนละ 1,800 บาท
ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้น คนขับแท็กซี่ทั้ง 2 รายเล่าว่า แรงงานทั้งหมดเดินเท้าเข้ามา ตามช่องทางธรรมชาติ 15 จต.16 โดย จ่ายค่าจ้างให้ผู้พาเดินคนละ 900 บาท และ นั่งมอเตอร์ไซค์ต่อมาที่บ้านแก้วเพชรพลอย จ่ายค่ามอเตอร์ ไซค์ พามาส่งอีก 500 บาท ถ้าถึงที่หมายจะจ่ายให้ผู้นำพาคนละ 1,800 บาท ตามข้อตกลง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวนที่หน่วยเฉพาะกิจตาพระยา ทำการซักถามและตรวจสอบประวัติ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ. ตาพระยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป