พบเชื้อ โควิด ในฟิตเนสที่กักตัวชาวฝรั่งเศส

สธ. เผยผลสอบสวนโรคชาวฝรั่งเศสติดเชื้อ โควิด ในไทย พบเชื้อ โควิด บนพื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายในห้องฟิตเนส ที่เป็นที่กักตัว

ความคืบหน้าการสอบสวนโรค ติดโควิด ในผู้ป่วยเพศหญิงสัญชาติฝรั่งเศสติด ภายหลังเดินทางมาถึงประเทศไทยและผ่านการกักกันโรคระยะเวลา 14 วันแล้ว และได้รับการวินิจฉัยพบเชื้อ โควิด เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 63

24 ต.ค. 63 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ทีมสอบสวนโรค ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ประกอบด้วยสมาชิกครอบครัวที่ร่วมเดินทางมาด้วย 2 ราย และเพื่อนต่างชาติที่ขับรถไปรับที่สนามบินอีก 1 ราย ซึ่งทั้ง 3 ราย ไม่มีอาการทางเดินหายใจ ผลการตรวจ โควิด ไม่พบเชื้อ

ภาพจากอีจัน



ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินเดียวกันรวม 12 ราย พบผู้โดยสาร 1 รายมีอาการทางเดินหายใจ และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ โควิด ผลไม่พบเชื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอาการและรอตรวจหาเชื้อ

ทั้งนี้ ผลการตรวจเลือดของผู้ป่วยไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ โควิด แต่พบสารพันธุกรรมจำนวนมาก สอดคล้องกับลักษณะการติดเชื้อเฉียบพลันของโรค โควิด

ส่วนการถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ

สำหรับการสอบสวนในสถานที่กักกันโรค จังหวัดสมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยเข้าพักระหว่าง วันที่ 30 ก.ย. ถึง 15 ต.ค. 63 พบผู้ปฏิบัติงานจำนวน 68 คน เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 67 ราย ผลไม่พบเชื้อโควิด 19 รวมทั้งผลตรวจเลือดก็ไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ โควิด

ส่วนการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม จำนวน 7 ตัวอย่าง พบเชื้อ โควิด ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส จำนวน 1 ตัวอย่าง จึงมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ถูกกักกันไม่ครบ 14 วันออกมาแพร่เชื้อในห้องฟิตเนส และพื้นที่ส่วนกลางบางจุด

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคตามมาตรฐานสูงสุด และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องจนครบ 14 วัน รวมทั้งจะได้ประสานกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คุมเข้มมาตรฐานของโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) อย่างเคร่งครัด ไม่ให้เป็นจุดเสี่ยงเกิดการแพร่กระจายเชื้อ และขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422