กทม. เฝ้าระวัง – ป้องกันโรค RSV หลังพบระบาดในเด็ก

กทม. ร่วมเฝ้าระวังและป้องกัน โรค RSV ในเด็ก หลังพบระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว

ในช่วงปลายฤดูฝนเข้าสู่ต้นฤดูหนาว เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงและอาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนได้ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งโรค RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่มีเชื้อไวรัสเป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และมักจะเกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ

ภาพจากอีจัน
26 ต.ค. 63 นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า โรค RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus มักพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝน หรือปลายฝนต้นหนาว อาการของโรค คือ มีไข้สูง ไอมากและมีเสมหะมาก ซึมลง หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตัวเขียว จากการขาดออกซิเจน สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย ที่ปนปื้อนในสิ่งแวดล้อม เช่น โต๊ะ เก้อี้ ลูกบิดประตู ของล่น ฯลฯ และผ่านการหายใจเอาละอองจากการไอ จาม ของผู้ป่วยเข้าไปในร่างกาย โดยเชื้อไวรัสอาร์เอสวีสามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมงและสามารถอยู่ที่มือของเราได้นานประมาณ 30 นาที
ภาพจากอีจัน



ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคโดยตรง แต่ใช้วิธีรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอละลายเสมหะ ในเด็กบางรายที่มีเสมหะมาก ต้องเคาะปอดและดูดเสมหะออกเพื่อลดความรุนแรงของอาการไอและหายใจหอบเหนื่อยได้ ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์หากไม่มีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน การป้องกันโรคทำได้ ดังนี้

1. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่
2. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีหรือสัมผัสผู้ป่วย
3. ทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ
4. หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ทารกที่ได้รับควันบุหรี่จะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี
5. รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำมากๆ และให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ

ภาพจากอีจัน