ครม.เคาะโป๊ก! ต่ออายุ ‘สินค้าควบคุม’ 5 ชนิด นาน 5 เดือน

ครม.ต่ออายุ สินค้าควบคุม 5 ชนิด ถึง 29 มิ.ย. 67 ให้สิ้นสุดพร้อมกับสินค้าควบคุม 51 รายการ กำชับ กรมการค้าภายใน เสนอ ครม.ก่อน 2 สัปดาห์ หากจะยืดอายุต่อควบคุมสินค้า

วันนี้ (16 ม.ค.67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งได้มีมติเห็นชอบในการขยายระยะเวลาของการกำหนดสินค้าควบคุมและสวัสดิการตามพระราชบัญญัติ พ.ศ 2542 สำหรับปี 2567 โดยมีการเสนอจากกระทรวงพาณิชย์ ในการควบคุมสินค้า 5 รายการ ได้แก่ หน้ากากอนามัย, ใยสังเคราะห์สำหรับผลิตหน้ากาก, ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ, เศษกระดาษ/กระดาษรีไซเคิล, ไก่ และเนื้อไก่

สินค้าทั้งห้ารายการนี้มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 23 ม.ค.67 ตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยการราคาสินค้าและบริการ ซึ่งประกาศนี้ได้ขยายอายุให้สินค้าทั้งห้ารายการมีผลถึงวันที่ 29 มิ.ย.67 และจะสิ้นสุดพร้อมกับสินค้าควบคุมอื่นๆ อีก 51 รายการ

นอกจากนี้, คณะรัฐมนตรียังได้มีมติสั่งการให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ต้องนำเสนอต่อครม.ก่อนหมดอายุบังคับใช้ 2 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาว่าจะควบคุมสินค้าเหล่านี้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากมีการควบคุมต่อ กกร.พาณิชย์จะมีการประกาศพร้อมกับสินค้าอีก 51 รายการที่มีการต่อขยายปีละครั้ง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ในส่วนของสินค้าและบริการควบคุมที่ กกร.มีมติให้ต่ออายุออกไปอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 ถึง 30 มิ.ย.67 ได้แก่ สินค้าควบคุม 46 รายการและบริการ 5 รายการ รวมทั้งสิ้น 51 รายการ

สินค้าควบคุมประกอบด้วยหลายหมวดหมู่ อาทิ หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีสินค้าเช่น กระดาษทำลูกฟูก, กระดาษเหนียว, กระดาษพิมพ์และเขียน, ยางรถจักรยานยนต์ และยางรถยนต์ หมวดปัจจัยทางการเกษตร เช่น กากดีดีจีเอส, เครื่องสูบน้ำ, ปุ๋ย, ยาป้องกันหรือจำกัดศัตรูพืช ขณะที่ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น ก๊าชปิโตรเลียมเหลว และน้ำมันเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ ยังมีหมวดวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ท่อพีวีซี, ปูนซีเมนต์, สายไฟฟ้า และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ส่วนหมวดสินค้าเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าวเปลือก, ข้าวสาลี, ข้าวโพด, ต้นพันธุ์พืชต่างๆ รวมถึงหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กระดาษชำระ, แชมพู, ผงซักฟอก, ผลิตภัณฑ์ล้างจาน และผ้าอนามัย

การตัดสินใจของ ครม.ในการขยายระยะเวลาควบคุมสินค้าเหล่านี้ สะท้อนถึงความพยายามในการรักษาระดับราคา และการจัดการสินค้าหลักที่มีความสำคัญต่อประชาชน รวมถึงการดูแลเกษตรกรและผู้ผลิตภายในประเทศให้มีความสมดุลและเสถียรภาพ


ข่าวน่าสนใจอื่น: