
วันนี้ (25 เม.ย. 68) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat ถึงความคืบหน้าการปิดเกาะแห่งหนึ่งในเกาะพีพี นับตั้งแต่ พ.ศ.2559 เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศ จากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปะการัง กระทั่งผ่านไป 9 ปี ได้ฟื้นฟูกลายเป็นแหล่งแม่พันธุ์ปะการัง

โพสต์ระบุว่า
จะพาเพื่อนธรณ์ไปรู้จักเกาะที่ปิดสนิทเพื่อให้เป็น “แม่ปะการัง” แห่งพีพี ตอนนี้พวกแม่ๆ โตกันเยอะเลยครับ
เริ่มจากเกาะในภาพ สมัยก่อนทะเลยับเยินมาก ผมลงสำรวจกับทีมอุทยานครั้งแรก บอกเลยว่าร้องไห้ใต้น้ำ
นอกจากสภาพที่เห็นด้วยสายตา ผมยังทราบดีว่า เกาะนี้สำคัญยิ่งต่อปะการังรอบด้าน
เมื่อปะการังออกไข่ ตัวอ่อนปะการังจะลอยไปตามน้ำช่วงหนึ่ง ก่อนลงเกาะกับพื้นทะเล
ปะการังที่ลงเกาะ จึงไม่จำเป็นต้องมาจากพ่อแม่ปะการังตรงนั้น อาจลอยมาจากแนวปะการังแห่งอื่น
แนวปะการังทุกแห่งสำคัญ แต่มีบางแห่งสำคัญยิ่งกว่า เพราะด้วยตำแหน่งที่ตั้ง ทำให้ที่นั่นเป็นแหล่งกำเนิด (source reef)
เกาะนี้เป็นแหล่งกำเนิด แต่ใต้ทะเลอยู่ในสภาพแหลกสลาย มันเป็นการฆ่าพ่อแม่ปะการังในทะเลถิ่นนี้โดยตรง


ในที่สุด หลังจากพูดคุยกันกับหลายฝ่าย กรมอุทยานประกาศปิดเกาะตั้งแต่ปี 2559 ไม่อนุญาตให้ทำการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
นับเป็นเกาะแรกที่ทำเช่นนั้น ก่อนหน้าเกาะตาชัย
ผมนำภาพมาให้เพื่อนธรณ์ดู ภาพดาวเทียมในอดีต เห็นเรือเข้าไปเที่ยว แทบไม่เห็นปะการัง (ปื้นดำ)
ภาพใต้น้ำคือที่ผมถ่ายไว้ตั้งแต่เข้าไปร่วมสำรวจกับอุทยานในปี 58 ก่อนที่จะตัดสินใจปิด
ปะการังแตกหักกลายเป็นเศษซาก แทบไม่มีปลา ที่เห็นเกือบทั้งหมดเป็นปลาสลิดหินกินขนมปัง
หลังจากปิดแล้ว เวลาผ่านไปหลายปี ระบบนิเวศฟื้นตัวและไปไกลกว่าที่คิด
จากภาพดาวเทียมปัจจุบัน จะเห็นปื้นดำของปะการังงอกใหม่ขยายตัวเต็มไปหมด เทียบกับอดีตแล้วมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมหาศาล
มหาศาลขนาดเห็นได้ชัดเจนแม้จากดาวเทียมบนฟ้า
ภาพใต้น้ำให้ดูว่าปื้นดำที่เห็นคือดงปะการังน้ำตื้นขนาดยักษ์
ในปัจจุบัน เกาะดังกล่าวก็ยังปิดอยู่และคงปิดไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นแหล่งพ่อแม่พันธุ์ุถาวร
เป็นการปิดต่างจากปิดชั่วคราวในฤดูมรสุม หรือเพราะฟอกขาว ที่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็เปิดใหม่
ยังต่างจากอ่าวมาหยา ที่ปิดปรับปรุงเพื่อเปิดการท่องเที่ยวแบบใหม่ หรือแม้กระทั่งเกาะตาชัยที่ปิดแล้วยังต้องพิจารณาว่าเอาไงต่อดี
เกาะแห่งนี้ปิดเพื่อเป็นแหล่งพ่อแม่พันธุ์ถาวร จึงปิดไม่มีกำหนด ปล่อยให้ปะการังโตไปเรื่อยๆ
โตไปเรื่อยๆ ยิ่งโตยิ่งดี แม้กระทั่งตอนฟื้นฟูปะการังที่อ่าวมาหยา บางส่วนก็นำเศษแตกหักของปะการังมาจากที่นี่
เกาะแห่งนี้จึงเป็น “ผู้ให้กำเนิดปะการัง” แห่งพีพีที่แท้จริง
และหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปครับ

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat