ชายพิการใจสู้ โยกสามล้อจากสุโขทัยเข้ากรุง ยืนยันตัวตนกรมบัญชีกลาง

ชายพิการใจสู้ โยกสามล้อคู่ใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมายืนยันตัวตนที่กรมบัญชีกลาง หลังถูกตัดสิทธิรับเงินช่วยเหลือผู้พิการ

คนเราเกิดมาหากยังมีลมหายใจ ต่อให้ต้องเจอกับความลำบากแค่ไหนก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด นี่อาจเป็นความคิดของชายพิการคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ และสิทธิที่เขาพึงจะได้รับ แม้การเข้าถึงสวัสดิการนั้นๆจะสวนทางกับยุคสมัย  

วันที่ 5 ก.พ. 67 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้เสนอเรื่องราวชวนหดหู่และน่าเห็นใจของชายพิการคนหนึ่งที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมายืนยันตัวตนที่กรมบัญชีกลาง หลังถูกตัดสิทธิรับเงินช่วยเหลือสวัสดิการคนพิการ 

ขอบคุณภาพจาก : รายการ เรื่องเล่าเช้านี้

โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลา 20.00 น. ร.ต.ท.บุญเรือง ศรีกระจ่าง รองสารวัตรงานป้องกันและปราบปราม สภ.ไชโย (ร้อยเวรสายตรวจรถยนต์) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายพิการใช้รถโยกสามล้อ อยู่บนถนนสายเอเชียกำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จึงได้เดินทางมาทำการตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าว อยู่บริเวณถนนทางเข้า อ.ไชโย (แห่งใหม่) กิโลเมตรที่ 58 หมู่ที่ 4 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง จึงได้ทำการตรวจสอบ 

ทราบชื่อต่อมาคือ นายมณฑล อายุ 48 ปี บ้านอยู่ที่ ม.4 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย กำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ด้วยรถสามล้อโยก เพื่อไปยืนยันตัวตนที่กรมบัญชีกลาง ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หลังตนถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน 

ขอบคุณภาพจาก : รายการ เรื่องเล่าเช้านี้

นายมณฑล เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาทำงานรับจ้างอยู่ในกรุงเทพฯ โดยทำงานเป็นช่างแกะลายกระจก แกะสลักไม้ รับทำป้าย ก่อนเกิดอุบัติเหตุพลัดตกตึก 6 ชั้น ตั้งแต่ปี 2557 ส่งผลให้พิการขาทั้ง 2 ข้าง จึงเดินทางกลับมาทำงานรับจ้างทำงานแฮนเมดจากกะลามะพร้าว แต่รายได้ก็ไม่ดีมากนัก ทางญาติพี่น้องก็มีภาระกันทุกคน มีเงินช่วยเหลือสวัสดิการของคนพิการ เดือนละ 800 บาท ซึ่งตนได้ไปตรวจสอบเงินเบี้ยคนพิการ ทำให้ทราบว่าไม่มีเบี้ยคนพิการโอนเข้ามาตั้งแต่ปี 2563 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่อำเภอศรีสัชนาลัย ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ตนเองถูกตัดสิทธิผู้พิการ บัตรประชาชนก็ไม่สามารถทำได้ และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.ศรีสัชนาลัย 

เมื่อตนเองเดินทางไปทำการแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกเอกสารทะเบียราษฎรให้กับตนเอง และบอกว่าจะต้องไปทำการยืนยันสิทธิด้วยตนเองที่กรมบัญชีกลาง ในกรุงเทพฯ ตนเองไม่รู้จะเดินทางได้อย่างไร และขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาตนเองไป ทางเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่าช่วยเหลือได้เท่านี้ ส่วนการเดินทางคงต้องช่วยเหลือตัวเอง ตนจึงตัดสินใจใช้รถสามล้อโยก  เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมด้วยสัมภาระที่อยู่ในตะกร้าหน้าและหลัง โดยกว่าจะเดินทางมาถึง จ.อ่างทอง นั้น ใช้เวลากว่า 3 สัปดาห์ รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร 

ด้าน นายไพฑูรย์ ผลธุสะ เจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย ออกทำการตรวจสอบจนพบชายพิการดังกล่าว  

ขอบคุณภาพจาก : รายการ เรื่องเล่าเช้านี้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการช่วยเหลือชายพิการคนดังกล่าว ไปพักผ่อนเป็นการชั่วคราวที่ สภ.ไชโย ก่อนที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในการช่วยเหลือต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กรมบัญชีกลาง ทราบถึงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยนางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง ชี้แจงกรณีชายพิการโยกรถสามล้อจากสุโขทัยมุ่งหน้ากรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ เพื่อยืนยันตัวตนขอสิทธิผู้พิการเนื่องจากถูกตัดสิทธิ และไม่มีบัตรประชาชนนั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้ติดตามก่อนทราบว่า นายมณฑล เพ็ชรสังข์ เดินทางมาถึงอยุธยาแล้ว ทางคลังเขต 1 จังหวัดอยุธยา และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ได้ให้ความช่วยเหลือ รับตัวมาที่สำนักงาน เพื่อตรวจสอบข้อมูลและสาเหตุการถูกตัดสิทธิผู้พิการตามที่ร้องเรียน