สองพิธีชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง.-อดีตผู้ว่าสตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

“ดำรง พุฒตาล-นารากร ติยายน” สองพิธีกรชื่อดัง แจ้งความกล่าวโทษผู้ว่า สตง. และอดีตผู้ว่าสตง. เหตุตึก 30 ชั้น ของ สตง.ถล่ม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ

วันนี้ (2 พ.ค.68) นายดำรง พุฒตาล และนางสาวนารากร ติยายน สองพิธีกรชื่อดัง เดินทางไปที่ สน.บางซื่อ เข้าแจ้งความกล่าวโทษกับนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งเป็นผู้ลงนามสัญญาการว่าจ้าง ในการก่อสร้างอาคารสำนักงาน สตง.ใหม่  ที่ได้รับอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างจากคณะรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ.2563  ในข้อหา กระทำการโดยประมาททำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

นางสาวนารากร เปิดเผยว่า จากเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มลงมา หลังแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568  ซึ่งขณะนั้นมีคนงานก่อสร้างกำลังทำงานอยู่จำนวนมาก ในฐานะประชาชนมองว่า ขณะนี้เวลาผ่านมา 35 วันแล้ว มีการค้นหาพบผู้เสียชีวิตและผู้ที่ยังสูญหายกว่าร้อยคน แม้อาคารจะพังถล่มลงมาหลังแผ่นดินไหว แต่ช่วงเวลาเดียวกันอาคารสูงหลายแห่งในพื้นที่ กทม.ที่กำลังก่อสร้างอยู่เช่นเดียวกัน ไม่มีอาคารใดเกิดการพังถล่มลงมาเหมือนอาคารของ สตง.

และตั้งแต่เกิดเรื่องมาจนถึงวันนี้  ไม่มีการออกอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีแต่การชี้แจงว่าแก้ไขแบบอย่างถูกต้องเท่านั้น รู้สึกคับข้องใจอย่างมาก ว่าการถล่มของอาคารมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่ หวั่นหากเวลาผ่านไปเนิ่นนานจะมีเพียงแต่วิศวกร ที่ต้องถูกดำเนินคดีเท่านั้น

ส่วน นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยังไม่เคยเอ่ยคำขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อการเสียชีวิตและสูญหายของคนร่วมร้อยชีวิต ทั้ง ๆ ที่ในตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นายมณเฑียร สามารถบริหารจัดการ และควบคุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการก่อสร้าง ให้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้

เห็นได้ชัดว่าได้กระทำการโดยประมาท ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อันต้องกระทำ เพื่อป้องไม่ให้มีการทุจริตในกิจการทั้งปวงของ สตง. อาจมีการกระทำความผิดอาญาแผ่นดิน จึงมากล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินคดีนายมณเฑียร ให้ถึงที่สุดตามพยานหลักฐาน

นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายใหญ่แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ทั้งงบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชน  ทั้งความไม่ชอบมาพากลในการอนุมัติและควบคุมการก่อสร้าง มีข้อมูลว่ามีการแก้แบบก่อสร้างโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย มีการเผยแพร่ข่าวไปทั่วโลกทำลายความเชื่อมั่นภาพลักษณ์เรื่องความปลอดภัยของไทยในสายตาชาวต่างชาติ สะท้อนจากคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่พูดว่า “เราจะตอบชาวโลกได้อย่างไร”

ด้าน นายดำรง มองว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ประชาชนเสียหายโดยตรง กว่า 2 พันล้าน ไม่ได้ทั้งตึก สตง.หลังใหม่ และยังมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จึงอยากออกมาเรียกร้องและกระตุ้นให้มีผู้มารับผิดชอบความเสียหายครั้งนี้ ย้ำเดี๋ยวนี้รัฐบาลไม่เห็นหัวประชาชน

จากที่เห็นการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มีแต่การสอบสวนบริษัทก่อสร้าง วิศวกรแต่ไม่เห็นการเรียกสอบผู้ว่าฯ สตง. แต่อย่างใด อีกทั้งหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบของชาติแต่ทำไมไม่มีการตรวจสอบการดำเนินงานก่อสร้างของตนเองหรืออย่างไร