รวบชายวัย 76 สุดแสบ! หลอกสั่งเครื่องเชื่อมเหล็ก พอได้ของแล้วเชิดหนี

กองปราบจับกุมลุงแสบ หลอกสั่งของ แล้วเชิดหนี ประวัติอื้อซ่า

วานนี้ (31 ก.ค.62) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมนายสุริยะ โยธินชวโร อายุ 76 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 4 หมาย
1. “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ตามหมายจับของศาลธัญบุรี
2.“ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ตามหมายจับของศาลธัญบุรี
3.“ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ตามหมายจับของศาลธัญบุรี
4.“ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ตามหมายจับของศาลธัญบุรี

ภาพจากอีจัน


การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 เม.ย.60 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวก อีก 3 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ทำทีโทรมาติดต่อขอซื้อเครื่องเชื่อมเหล็กกับผู้เสียหายมูลค่ากว่า 150,000 บาท โดยหลอกว่าเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จะขอซื้อเครื่องเชื่อมเหล็กเพื่อไปใช้ในโครงการของหมู่บ้าน และขอจ่ายเป็นเงินสด

แต่พอผู้เสียหายนำของมาส่ง ผู้ต้องหากลับขอจ่ายเป็น เช็คแทน โดยผู้ต้องหาจะเลือกนัดวันรับของจากผู้เสียหายให้ตรงกับวันหยุดราชการ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายสามารถตรวจสอบกับธนาคารได้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปเบิกเงินกับธนาคาร ปรากฏว่า บัญชีดังกล่าวได้ถูกปิดไปนานแล้ว ผู้เสียหายได้พยายามโทรติดต่อกับผู้ต้องหาแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าถูกหลอก และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวก ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว

ภาพจากอีจัน


ต่อมา ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาจะเข้ามาห้างสรรพสินค้า แห้งหนึ่ง ย่านปิ่นเกล้า บ่อยครั้งเพื่อมากดเงิน จึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่ง วานนี้ (31 ก.ค.62) เวลาประมาณ 12.00 น. พบผู้ต้องหาเดินเข้าภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว และหมายจับ ผู้ต้องหาดู ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน ผู้ต้องหาให้การ ภาคเสธ โดยให้การว่า ตนเป็นเพียงพนักงานคอยรับส่งของเท่านั้น โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 2,000-3,000 บาท

ภาพจากอีจัน
และจากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา พบว่า มีหมายจับ ทั้งสิ้น 18 หมาย และยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดี จำนวน 4 หมายดังกล่าวข้างต้น โดยผู้ต้องหาเคยถูกตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจนครบาลจับกุมตัวได้ และศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกผู้ต้องหา เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วก็ยังหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันเรื่อยมา โดยแต่ละรายจะได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 100,000 บาท ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป