วัยรุ่น ก่อเหตุงัดตู้เติมเงิน 9 ครั้ง ได้เงินรวม 3 แสน นำเงินซื้อยาเสพติด

เจ้าหน้าที่รวบ วัยรุ่น จ.นครปฐม ก่อเหตุงัดตู้เติมเงิน 9 ครั้ง ได้เงินรวม 3 แสน นำเงินซื้อยาเสพติด

วานนี้ (31 ก.ค. 62) พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม , พ.ต.อ.พีระเดช เจริญเดช ผกก.สภ.เมืองนครปฐม , พ.ต.อ.ประเสริฐ กัลยาวุฒิพงศ์ ผกก.สภ.ดอนตูม พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา งัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ 2 คน คือ นายเอกภพ ศิริเลิศ หรือเหน่งหนองรี อายุ 28 ปี และนายสม หรือรัก นามสมมติ อายุ 18 ปี ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 4 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


เจ้าหน้าที่ พบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด รถจยย.แบบพ่วงข้าง 1 คัน ชะแลงเหล็ก ค้อนปอนด์ ผ้ากันเปื้อนจำนวน 2 ตัว ตู้เติมเงิน 2 ตู้ พร้อมขาตั้งตู้จำนวน 3 ขา โดยผู้ต้องหาทั้งสองคน ให้การรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกันลักตู้เติมเงินบุญเติม

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ผู้ต้องหาร่วมกันงัดตู้เติมเงิน จำนวน 9 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท
เขตท้องที่ สภ.ดอนตูม 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 (วันที่ 24 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่หน้าวัดเลาเต่า ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้เงิน 6,115บาท สร้าง ความ เสียหาย กับตู้เติมเงิน 29,000 บาท
ครั้งที่ 2 (วันที่ 25 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่ริมถนนข้างโรงแรมเดอะปริ้น ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้เงิน 2,834 บาท สร้างความเสียหาย กับตู้เติมเงิน 31,200 บาท
ครั้งที่ 3 (วันที่ 28 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่ริมถนนข้างวัดห้วยพระ ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้เงิน 3,996 บาท

เขตท้องที่ สภ.เมืองนครปฐม 5 ครั้ง
ครั้งที่ 1 (วันที่ 8 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่บริเวณร้านอรพิน 57 หมู่ 3 ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม
ครั้งที่ 2 (วันที่ 19 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่หน้าร้านชาพะยอม ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม
ครั้งที่ 3 (วันที่ 23 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่หน้าคลินิกมุทิกา เลขที่ 126 หมู่ 9 ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม
ครั้งที่ 4 (วันที่ 27 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่บริเวณร้านสำรวย เลขที่ 7/5 หมู่ 6 ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม
ครั้งที่ 5 (วันที่ 28 ก.ค.62) ก่อเหตุที่ บริเวณบ้านทัพหลวง ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม
เขตท้องที่ สภ.กำแพงแสนจำนวน 1 ครั้ง
ครั้งที่ 1 (วันที่ 26 ก.ค. 62) ก่อเหตุ ที่บริเวณหน้าวัดกำแพงแสน ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ภาพจากอีจัน


พฤติกรรมผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน จะขับขี่รถจักรยานยนต์ แบบพ่วงข้างพร้อมอุปกรณ์งัดแงะ ตะเวนขับไปก่อเหตุใน ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน โดยนายเอกภพ เป็นคนขับขี่รถพ่วง ส่วนนายสม จะนั่งซ้อนท้ายไปด้วย เมื่อผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน พบตู้ เติมเงินบุญเติม ก็ยกตู้เติมเงินใส่รถพ่วงข้าง และขับรถไปบริเวณที่ไม่มีคน จากนั้นก็ใช้ช้อนค้อนทุบ และแฉลงงัดหัวตู้แยก ออกจากกัน ซึ่งนายสม จะเป็นคนเก็บเงินในตู้ ใส่ตะกร้าสีดำ และจะช่วยกันยกขาตู้ไปทิ้งริมทาง หรือริมคลองชล แล้ว ผู้ต้องหาทั้ง 2 จะขับขี่รถไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อโยนหัวตู้เติมเงินทิ้ง และพากันกลับบ้านพัก อ.เมืองนครปฐม โดยนำเงินมา แบ่งกันคนละครึ่ง จากยอดเงินที่ได้แต่ละครั้ง เพื่อนำไปซื้อยาเสพติด