แชร์สนั่นโซเชียล สาวโพสต์ขอความเป็นธรรม สามีถูกวัยรุ่นฟันคอสาหัส แต่คดีไม่คืบ

สาวโพสต์เฟซบุ๊ก ขอความเป็นธรรม หลังสามีถูกวัยรุ่นฟันคอสาหัส 1 เดือนคดีไม่คืบ ลั่น ที่โพสต์เพราะน้อยใจตำรวจ

วานนี้ (4 สิงหาคม 2562) ทีมข่าวอีจัน รายงานว่าโลกโซเชียลแชร์สนั่น หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่ออมรา มาสี โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ของชายบาดเจ็บที่อ้างว่าเป็นสามี โดยในภาพเห็นบาดแผลของชายคนดังกล่าว เป็นแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอด้านซ้าย ใบหูซ้าย ใบหน้า และภาพนอนเลือดเต็มตัวบนเตียงในโรงพยาบาล
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า
“ขอให้ช่วยกันแชร์อีกรอบค่ะ …ลงเพื่อขอความเป็นธรรม รอบที่แล้วเราลบ เพราะทางตำรวจขอให้ลบ บอกว่าจะจับตัวคนผิดมาลงโทษให้ แต่นะวันนี้เราไปที่ สภ.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เรื่องเกิดที่บ้านหนองบัวบอกให้รอเรื่องไปก่อน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2562 ตอนนี้ผ่านไป 1 เดือน 5 วัน ยังไม่สามารถจับคนทำได้เลย…ขอถามทางท่านที่ใหญ่กว่าร้อยเวรที่ดูแลคดีตอนนี้…ว่ารออะไรอีก ถ้ายังจับไม่ได้เราจะเอาคลิปลงไปร้อง ที่ศูนย์ข่าวต่อไป แฟนเราถูกวัยรุ่นในหมู่บ้านนั้นฟัน แต่ไม่เคยมีเรื่องกัน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และแฟนเราไม่ค่อยได้อยู่บ้านค่ะ ทำงานต่างจังหวัด”
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและกดแชร์ออกไปจำนวนมาก
ต่อมาทีมข่าวอีจันได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ที่บ้านพัก บ้านโนนสว่าง ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พบกับนางอัมรา มาสี อายุ 33 ปี ซึ่งกำลังปรับทุกข์ กับนายวีระพงษ์ ภูนาสูง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นสามีและได้รับบาดเจ็บ

ภาพจากอีจัน


จากการสอบถาม นางอมรา ยอมรับว่าตนเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กและเป็นคนที่โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง โดยระบุว่าเกิดจากมีความน้อยอกน้อยใจพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ที่ยังไม่นำตัวคนร้าย ที่ใช้อาวุธของมีคมทำร้ายสามี คือนายวีระพงษ์ จนเป็นแผลฉกรรจ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยถูกของมีคมฟันเป็นบาดแผลลึก เฉียดถูกคอหอย กว้างประมาณ 7 ซม. ยาวประมาณ 20 ซม. เย็บ 29 เข็ม นอกจากนี้ยังมีรอยฟันเข้าที่ใบหูด้านซ้ายหวิดขาดอีกด้วย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


หลังจากเกิดเหตุ ทางครอบครัวได้เข้าเเจ้งความ แต่คดียังไม่คืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ทางครอบครัวได้ติดต่อสอบถาม 3-4 ครั้ง ยังไม่คืบหน้า จึงรู้สึกน้อยใจและโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กขอความเป็นธรรม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบอกให้ลบโพสต์ดังกล่าว

ด้านนายวีระพงษ์ ภูนาสูง อายุ 38 ปี สามีนางอมรา มาสี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนถูกวัยรุ่นใช้อาวุธของมีคมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสในคืนนั้น เป็นช่วงที่หมอลำที่ทำการแสดงกำลังจะเลิก และตนกำลังจะชวนญาติและลูกหลานขึ้นรถกลับบ้าน กลับมีกลุ่มวัยรุ่นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งมีอาการเมาสุรา และเต้นอยู่หน้าเวทีหมอลำทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องทะเลาะกับกลุ่มลูกหลานที่ตนพาไปด้วย ตนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านหนองบัว ที่สังเกตการณ์ดูอยู่และร้องบอกดีๆว่าอย่ามาหาเรื่องกันเลย เรามาเอาบุญ มาดูหมอลำให้สนุกเท่านั้นเอง อย่าทะเลาะกันเลย วัยรุ่นเจ้าถิ่นกลุ่มนั้นจึงถอยห่างออกไป

ภาพจากอีจัน


นายวีระพงษ์กล่าวอีกว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชาวบ้านและกลุ่มวัยรุ่นที่มาชมหมอลำ เริ่มลุกออกจากงานและเดินออกจากหน้าเวที บรรยากาศจึงดูพลุกพล่าน บางคนเดินกลับไปกลับมา รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คนที่ทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องกับกลุ่มลูกหลานของตน จึงดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อมีวัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้านข้างแล้วใช้ของแข็งมีคมฟาดเข้าที่ลำคอข้างซ้ายของตนอย่างแรง จนรู้สึกปวดและชา จึงเอามือลูบคลำดูและเห็นหยดเลือดก็ตกใจแทบช็อค แต่ก็พยายามตั้งสติ ก่อนที่จะญาติจะประคองร่าง และนำขึ้นรถส่งโรงพยาบาลหนองกุงศรี และถูกนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ในเวลาต่อมา


ถึงแม้จะผ่านมาเดือนเศษ ตนยังรู้สึกงงอยู่ว่าถูกทำร้ายได้อย่างไร ทั้งๆที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ทำมาหากิน รับจ้างเลี้ยงครอบครัวโดยสุจริต ว่างๆ พาครอบครัวและญาติเข้าวัดทำบุญ เหตุที่ถูกทำร้ายคงเป็นเพราะเกิดจากความคะนองและอยาก ของวัยรุ่นที่ลงมือทำร้ายตนเท่านั้น เพราะไม่รู้จักหรือมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุตนยังรู้สึกงงกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ที่ยังไม่ออกหมายเรียกคนร้ายมาดำเนินคดี จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อที่จะไม่ให้มีพฤติกรรมย่ามใจ ไปทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในงานบุญที่ไหนอีก
ล่าสุดหลังจากนางอมรา ได้โพสต์เรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊กอีกครั้ง พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดีแล้ว โดยคาดว่าจะมีความคืบหน้าของคดีในเร็ววันนี้