เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (13 ส.ค. 62) ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ แผลงดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถต้องสงสัยจอดติดเครื่อง มีคนนอนอยู่ด้านใน 3 คน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว เหตุเกิดภายในซอยบุญลักษณ์ ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรแก้ว แก้วแสงยศ ผกก.สภ.ลำลูกกา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์เวรโรงพยาบาลลำลูกกา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรศูนย์จังหวัดปทุมธานี
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ในที่เกิดเหตุ ภายในซอยดังกล่าว ห่างจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์เล็กน้อย เจ้าหน้าที่พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวิท สีดำ จอดติดเครื่องอยู่ ภายในรถคันดังกล่าว มีคนนอนอยู่ในรถรวมทั้งหมด 3 คน และมีชาวบ้านที่ทราบข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้พากันมามุงดูเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ไว้ และกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปยืนรอด้านนอกแนวกั้น จากนั้นได้เรียกช่างกุญแจมาเพื่อทำการเปิดรถ โดยใช้เวลาไม่นาน จึงสามารถเปิดประตูรถได้ และจากการตรวจสอบภายในรถที่เบาะหลังพบศพสองแม่ลูก นั่งกอดกันอยู่อย่างน่าสลด ต่อสายตาของชาวบ้าน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรศูนย์จังหวัดปทุมธานี ช่วยกันนำร่างของเด็กหญิง ออกมาจากตัวรถเพื่อชันสูตรศพแรก ทราบชื่อคือ ด.ญ.ฟ้าใส นิลโคตร อายุประมาณ 4-7 ปี โดยมีบัตรประจำตัวโรงเรียนอนุบาลลาดสวาย ย่านคลองสี่ลำลูกกา จากนั้นนำแม่เด็กออกมาชันสูตรเป็นรายที่ 2 และพบบัตรประชาชนผู้เป็นแม่จำนวน 2 ใบ และเป็นคนเดียวกัน โดยชื่อเดิม นางณัฐณิชา นิลโคตร อายุ 33 ปี ชาว อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี และบัตรประชาชนอีกใบ ผู้ตายเพิ่งเปลี่ยนชื่อและนามสกุล เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 61 โดยใช้ชื่อใหม่คือ นางสาวดารัณ มีวรรณสุขกุล และศพที่ 3 ผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บริเวณคนขับ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรฯ ได้นำร่างออกมาจากรถเป็นศพที่ 3 พบเอกสารระบุชื่อ นายสุรเชษฐ์ นิลโคตร อายุ 36 ปี ชาว อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สภาพศพนั่งเสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับ ในลักษณะตะแคงซ้าย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวเเละกางเกงขายาว
ภาพจากอีจัน
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบเตาถ่าน(อั้งโล่) สภาพใหม่ ถูกจุดไฟและวางอยู่ที่ด้านเบาะหลังสุด นอกจากนี้ยังพบถุงใส่ถ่าน วางอยู่ใกล้กันอีก 1 ถุง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด โดยแพทย์ได้ระบุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่า ทั้งหมด 3 คน พ่อ แม่และลูก ได้เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-6 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นางละมัย อาสาสี อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ได้ให้การว่า ได้มีลูกบ้านโทรมาแจ้งว่า พบรถเก๋งต้องสงสัย ที่จอดอยู่ภายในซอยบุญลักษณ์ ที่ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 62 ตอนประมาณ 21.00 น. จนตอนนี้รถคันดังกล่าว ยังคงจอดอยู่ ตนจึงออกไปตรวจสอบ พร้อมกับสามี และเมื่อไปถึงก็พบรถคันดังกล่าว จอดพร้อมทั้งติดเครื่องยนต์อยู่ ตนจึงได้ลงไปดูก็พบว่า มีคนนอนอยู่ในรถรวมทั้งหมด 3 คน และจากการมองดูรอบรถแล้ว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกาทราบ เพื่อให้มาดูที่เกิดเหตุด้วย เมื่อลูกบ้านทราบข่าว ก็มาดูแต่ไม่มีใครทราบชื่อและไม่รู้จัก
ทางด้าน พ.ต.อ.จักรแก้ว แก้วแสงยศ ผกก.สภ.ลำลูกกา กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร พร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูกกัน โดยในเบื้องต้นได้ทำการติดต่อไปยังพ่อของผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกว่าเกิดเหตุอะไร โดยรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุจูงใจในการกระทำเช่นนี้ ต้องรอสอบครอบครัวของผู้เสียชีวิตก่อน ว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรศูนย์จังหวัดปทุมธานี นำส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี (มศว.คลองสิบหก ) อ.องค์รักษ์ จ.นครนายก เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ล่าสุดด้านพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (14 ส.ค. 62) ญาติได้มาติดต่อขอรับศพ 3 พ่อแม่ลูกแล้ว ที่โรงพยาบาล มศว. ส่วนเรื่องสาเหตุนั้น ผู้ตายเคยเปิดเต๊นท์รถและร้านชาบู แต่ประสบปัญหาเรื่องหนี้สิน จนถูกฟ้องร้องและเคลียร์ปัญหาผ่อนชำระกันอยู่ คาดว่าน่าจะเกิดจากอาการเครียดจึงก่อเหตุสลดดังกล่าว