กลั้นฉี่อันตราย! เสี่ยงเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

แพทย์โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เตือน กลั้นปัสสาวะบ่อยๆ เสี่ยงเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ถ้าแอดถามว่า “ใครเคยกลั้นฉี่บ้าง” คงจะมีคนตอบว่า ไม่เคย น้อยถึงน้อยมากๆ เลยนะคะ วันนี้จะมาบอกว่า การกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ มันไม่ดีนะ บางรายอาจทรมานถึงขั้นเป็น โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เลยก็ได้ โดยเฉพาะคนทำงานที่จำเป็นต้องทำงานแข่งกับเวลา กลั้นฉี่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ควรปรับพฤติกรรมนะคะ เพราะข้อมูลจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บอกว่า กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากบริเวณรอบท่อปัสสาวะ

ภาพจากอีจัน


สาเหตุที่ทำให้เป็น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
– การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อโรคในปัสสาวะเจริญเติบโตได้ดี
– การดูแลรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี โดยเฉพาะผู้หญิงหากทำความสะอาดไม่ถูกวิธี เช่น เช็ดทำความสะอาดจากด้านหลังมาด้านหน้า แทนที่จะเป็นจากด้านหน้าไปด้านหลังก็จะทำให้มีโอกาสติดเชื้อจากช่องคลอดและทวารหนักได้
– การสวนล้างช่องคลอดด้วยยาปฏิชีวนะ ทำให้แบคทีเรียชนิดดีที่ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคถูกกำจัดออกไป จึงเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
– การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
– การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เมื่อฮอร์โมนเพศหญิงลดลงทำให้ความชุ่มชื้นบริเวณเยื่อบุช่องคลอดและเยื่อบุท่อปัสสาวะซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อลดลงตามไปด้วย
– ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หากควบคุมโรคได้ไม่ดีก็มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำอยู่แล้ว
– ป่วยที่ต้องรับประทานยากดภูมิต้านทาน
– การใส่คาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน

ภาพจากอีจัน


อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ที่เป็นบ่อย คือ
– ปัสสาวะบ่อย แต่ครั้งละน้อยๆ มีอาการคล้ายถ่ายปัสสาวะไม่สุด
– รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย ปวดแสบ ขัด ขณะปัสสาวะโดยเฉพาะตอนปัสสาวะสุด
– ปัสสาวะขุ่น บางครั้งมีกลิ่นผิดปกติ ในรายที่เป็นมากอาจปัสสาวะมีเลือดปน
ถ้ามีอาการเหล่านี้ ไปหาหมอได้เลย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่อยากเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ก็อย่ากลั้นฉี่ ถ้ารู้สึกปวดต้องบังคับตัวเองให้เข้าห้องน้ำทันที
ผู้สูงอายุหลายราย เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะนอนหลับนานๆ แล้วไม่ลุกมาฉี่ จึงไม่ควรดื่มน้ำหรือทานผลไม้ที่มีน้ำมากๆ ก่อนเข้านอน รักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศด้วยการทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่สวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดด้วยสบู่ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว หลังมีเพศสัมพันธ์ ควรปัสสาวะทิ้งและทำความสะอาดร่างกายทันที และควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น เบาหวาน เพราะหากควบคุมไม่ได้ก็จะติดเชื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก

ภาพจากอีจัน


ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หากมีการติดเชื้อซ้ำๆ อาจจำเป็นต้องใช้ยาปรับฮอร์โมนแบบเฉพาะที่ช่วย เช่น ยาเหน็บเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณเยื่อบุช่องคลอดและเยื่อบุท่อปัสสาวะเพื่อลดการติดเชื้อ แต่เนื่องจากการใช้ฮอร์โมนอาจมีผลข้างเคียงได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาปรับภูมิต้านทาน จำเป็นต้องปรับยาตามดุลยพินิจของแพทย์

เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองดีๆนะวัยทำงาน อย่าให้โรคถามหาได้ง่ายๆ แอดเป็นห่วงเด้อ