รำลึก 29 ปี ผู้ชายชื่อ สืบ นาคะเสถียร

ครบรอบ 29 ปี การจากไปของ สืบ นาคะเสถียร ชายผู้อุทิศชีวิตปกป้องสัตว์และผืนป่าห้วยขาแข้ง

1 กันยายน 2562 ที่จะถึงนี้ เป็นวันครบรอบ 29 ปี ของการจากไป ของผู้ชายที่ชื่อ สืบ นาคะเสถียร โดยวันนี้ (31 ส.ค. 62) นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ นักเขียนสารคดี นักวิจารณ์สังคม การเมืองและสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Vanchai Tantivitayapitak เพื่อรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร โดยระบุว่า

ภาพจากอีจัน
“ รำลึกลูกผู้ชายชื่อสืบ นาคะเสถียร 1 กันยายน ของทุกปี ผมยังรำลึกถึงพี่สืบ นาคะเสถียร เวลานึกถึงผู้ชายคนนี้คราใด น้ำตาผมไหลไม่อายใคร มิตรภาพอันเนิ่นนานของเราสามสิบกว่าปี มันราวกับเพิ่งเกิดเมื่อวันวาน ปลายปี 2529 ผมล่องเรือไปกับพี่สืบ นาคะเสถียร พร้อมเจ้าแดง หมาคู่ใจ เพื่อช่วยเหลือชีวิตสัตว์ป่า ที่ติดค้างอยู่บนยอดต้นไม้ หรือตามเกาะต่าง ๆ ในช่วงที่มีการเก็บกักน้ำในเขื่อนเชี่ยวหลาน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า "หากเราไม่ไปช่วย สัตว์ป่าทั้งหลายต้องอดตายหรือจมน้ำแน่นอน" พี่สืบบอกผม ผมจำได้ว่าตลอดเวลาสองปี เราช่วยเหลือสัตว์ป่าได้พันกว่าตัว ไม่ว่าจะเป็นเสือลายเมฆ กวาง ลิงลม ค่าง งูจงอาง ฯลฯ แต่สุดท้ายสัตว์เหล่านี้ก็รอดน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่อ่อนเพลียเต็มที หรือไม่ก็ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้

พี่สืบบอกผมว่า การช่วยเหลือสัตว์ป่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะเราไม่ควรจะทำลายป่าผืนใหญ่อีกต่อไปในประเทศนี้ โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่
ปีรุ่งขึ้น พี่สืบ ข้าราชการซี 5 ตัวเล็ก ๆ เป็นแกนนำคนหนึ่งในการต่อสู้คัดค้านการสร้างเขื่อนน้ำโจน ที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรหลายแสนไร่จนสำเร็จ

ปีต่อมา เขาทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผืนป่าห้วยขาแข้งที่มีขนาดใหญ่กว่ากรุงเทพมหานคร ให้รอดพ้นจากการตัดไม้ทำลายป่า และล่าสัตว์ป่า
ทุกวันนี้ป่าทุ่งใหญ่ ป่าห้วยขาแข้งรวมกันกว่า 5 ล้านไร่ ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก ด้วยการผลักดันของสืบ นาคะเสถียร
บนเวทีอภิปราย เขาพูดเสมอว่า "ผมขอพูดในนามตัวแทนของสัตว์ป่าที่ไม่มีสิทธิ์พูดได้" สืบไม่ดราม่า แต่พูดมาจากหัวใจ

ปลายปี 2532 พี่สืบชวนผมไปกินข้าว บอกว่าสอบทุนเรียนปริญญาเอก มหาวิทยาลัยลอนดอนได้ แต่ต้องไปรับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ปัญหาล่าสัตว์ ตัดไม้สูงมาก
ผมเชื่อว่าคนส่วนมากคงเลือกเรียนต่อเพื่ออนาคต แต่สืบกลับเลือกไปเป็นนักรบแนวหน้าในป่าใหญ่
ในป่าห้วยขาแข้งในฐานะหัวหน้าเขต เมื่อต้องไปรับศพลูกน้องที่ถูกยิงตายจากกลุ่มอิทธิพลที่มาลักลอบตัดไม้ล่าสัตว์ เขาตะโกนก้องไปในราวป่าว่า " มึงออกมายิงกับกูสิ"

สืบเป็นคนมีนิสัยที่ทำงานแล้ว จะทำแบบเต็มที่ละเอียดและสมบูรณ์แบบ
หากทำได้ไม่ดีพอ มักจะแสดงความรับผิดชอบสูงสุด
สุดท้ายเมื่อแรงกดดันในการรักษาป่าห้วยขาแข้งมาตกหนักที่เขา ขาดคน ขาดเงินขาดทุกอย่าง และผู้มีอำนาจรัฐไม่ใส่ใจ สิ่งที่เขาทำได้อย่างเดียวคือ
ตีหนึ่งของวันที่ 1 กันยายน 2533 หลังจากนั่งกินเหล้ากับลูกน้องคนสนิทมาหลายชั่วโมง เขาโบกมือกับลูกน้องว่า "ลาก่อนนะ"

ภาพจากอีจัน

รุ่งสางวันนั้น เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นในราวป่า ปลุกให้คนที่มีอำนาจหน้าที่ หันมาสนใจปัญหาในป่าห้วยขาแข้งอย่างจริงจัง
มันยังส่งเสียงดังมาจนถึงทุกวันนี้ แม้เวลาจะผ่านไป 29 ปี ”

ภาพจากอีจัน