UN เตือน มหันตภัยสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง กระทบทั้งโลก

UN เตือน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ความอดอยากพุ่งสูงในทั่วโลก

วันนี้ 10 ก.ย. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า 

มิเชล แบชเลต ข้าหลวงใหญ่ ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวในพิธีเปิดการประชุมสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 42 ว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นจริง และปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อทุกภูมิภาคทั่วโลก

แบชเลต กล่าว “ผลกระทบของอุณหภูมิโลกต่อมนุษย์ปัจจุบันอยู่ในระดับมหันตภัย พายุโหมกระหน่ำรุนแรงยิ่งขึ้น คลื่นทะเลสามารถจมหมู่เกาะของทั้งประเทศและเมืองริมชายฝั่งให้ลงสู่บาดาล” พร้อมกล่าวถึงไฟป่าที่ลุกโชนและวิกฤติน้ำแข็งละลายทั่วโลก เรากำลังจุดไฟเผาอนาคตของโลกอย่างแท้จริง

ขอบคุณภาพจาก : สำนักข่าวซินหัว
มิเชล บอกอีกว่า ความเร่งด่วนของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ความอดอยากพุ่งสูงในทั่วโลก โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่าเป็นการเพิ่มสูงขึ้นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่าช่วงปี 2030-2050 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะคร่าชีวิตผู้คน ราว 250,000 ราย จากการขาดสารอาหาร โรคมาลาเรีย โรคท้องร่วง และความเครียดจากอุณหภูมิสูงเพียงแค่ 4 สาเหตุ ยังไม่รวมสาเหตุอื่นๆ

ในหลายประเทศรูปแบบสภาพอากาศที่แปรปรวนและปรากฏการณ์อื่นๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะฉุกเฉินทางสิ่งแวดล้อมได้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้นในปัจจุบัน การพลัดถิ่น ความตึงเครียดทางสังคม การเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะงักงัน และปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงยิ่งขึ้น โลกไม่เคยประสบกับภัยที่คุกคามสิทธิมนุษยชนในระดับนี้มาก่อน และนี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ประเทศ สถาบัน หรือผู้กำหนดนโยบายใดจะสามารถเมินเฉยได้

เศรษฐกิจของทุกประเทศ สถาบันด้านการเมือง สังคม และวัฒนธรรมของทุกรัฐ รวมถึงสิทธิของประชาชนทุกคนในปัจจุบันและในอนาคต จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ขณะนี้เรายังพอมีเวลาที่จะดำเนินการแก้ไข แต่ประตูแห่งโอกาสบานนี้อาจกำลังค่อยๆ ปิดลง

“เราอยู่ในยุคที่มีนวัตกรรมอันยอดเยี่ยม” และเสริมว่าเรามีหนทางที่รอบคอบกว่านี้ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรหมุนเวียน นโยบายที่ปกป้องและมอบอำนาจให้แก่กลุ่มคนชายขอบ รวมถึงแผนริเริ่มเพื่อการปกป้องสังคมที่หลากหลาย และการพัฒากลยุทธ์ของธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน อาจเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชนได้ดีกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.xinhuathai.com