จ่ายจริง! 3,000 บาท คนแจ้งเบาะแสจับเด็กแว้น รับมอบเงินแล้ว 3 คน

ปราบปรามเด็กแว้น ในรอบ 3 เดือน! จับแล้ว 986 ราย – จ่าย 3,000 บาท พลเมืองดีแจ้งเบาะแสจับเด็กแว้น

หลังจากที่มีมาตรการแจ้งเบาะแสจับเด้กแว้นรับเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท

ล่าสุด 13 กันยายน 2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และความผิดเกี่ยวข้องเป็นผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 3 – 10 กันยายน 2562 มีผู้ให้ข้อมูลเบาะแสทั่วประเทศ ผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 1599 และ ศูนย์โซเชียลมีเดีย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 188 ราย และในจำนวนนี้มีผู้ประสงค์รับเงินรางวัลทั้งหมด 11 ราย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยได้มีการดำเนินการมอบเงินรางวัลให้ไปแล้ว 3 ราย เป็นเงินรายละ 3,000 บาท ซึ่งผู้ที่ได้รับเงินนั้นสามารถแจ้งข้อมูลที่ชัดเจนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างชัดเจนจนตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในข้อหาแข่งรถในทาง ขับรถผิดปกติวิสัยของการขับรถธรรมดา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนอื่นๆ และเป็นผู้จัดสนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทาง
ภาพจากอีจัน
ทั้ง 3 รายที่ได้รับเงินนี้ เป็นการแจ้งข้อมูลจับกุมในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ชลบุรี และ สระบุรี ตำรวจจึงนำหลักฐานการโอนเงิน ให้กับพลเมืองดีมาแถลงยืนยันว่าได้มีการจ่ายเงินจริง และหลังจากนี้ยังมีพลเมืองดีอีกหลายรายที่เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจ่ายเงินให้กับพลเมืองดีอีก 2 ราย ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน และ สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง
ภาพจากอีจัน
ส่วนผลการจับกุมภาพรวมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน – 8 กันยายน ที่ผ่านมา พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ ระบุว่า มีการผู้กระทำผิดข้อหา แข่งรถในทางและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ความผิดฐานสนับสนุนให้มีการแข่งรถหรือให้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงดำเนินคดีกับพ่อแม่และผู้ปกครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก รวมจำนวน 986 ราย
ภาพจากอีจัน
ส่วนความผิดอื่นๆ เช่น พ.ร.บ.จราจรฯ และ พ.ร.บ.รถยนต์ที่เกี่ยวข้อง นั้นล่าสุดพบผู้กระทำผิดรวมกว่า 230,000 ราย โดยสิ่งที่น่าตกใจคือหนึ่งในจำนวนนี้มีปริมาณมากที่เป็นความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำประวัติผู้กระทำผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทาง จำนวน 40,222 ราย ตรวจยึดรถยนต์และจักรยานยนต์ได้อีกกว่า 57,000 คัน และดำเนินคดีกับร้านค้าดัดแปลงจำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ กว่า 200 ราย พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ บอกอีกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ดำเนินการกวดขันจับกุมอย่างจริงจัง พบว่าสถิติการกระทำผิดมีปริมาณลดลงอย่างมาก ปัจจุบันพบผู้กระทำผิดเหมือลเพียงร้อยละ 10 พร้อมฝากถึงพลเมืองดีที่ต้องการส่งข้อมูลให้ตำรวจนั้น จะต้องมีหลักฐานเช่นคลิปวีดีโอ สถานที่ เวลา ที่พบผู้กระทำผิด ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงสามารถดำเนินคดี และสามารถรับเงินได้ เพราะที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากที่ยังแจ้งข้อมูลไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้