14 ก.ย. 62 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการปฏิบัติการของระบบไบโอเมทริกซ์ ในระยะเวลาภายใน 3 วัน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สามารถตรวจจับบุคคลที่ใช้หนังสือเดินทางปลอมถึง 8 ราย
ภาพจากอีจัน
โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่จับได้นั้นมีพฤติการเหมือนกัน คือ เดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อเข้าไปยังประเทศที่ 3 ส่วนใหญ่ไปประเทศฝั่งยุโรป ซึ่งจะใช้หนังสือเดินทางปลอมที่ซื้อมาจากนายหน้าต่างประเทศ ราคา 18,000 – 1,700,000 บาท ซึ่งเรทราคานั้นขึ้นอยู่กับระยะต้นทางไปยังประเทศปลายทาง โดยระบบไบโอเมทริกซ์ได้อ่านค่าจากชิพที่ฝั่งอยู่ในหนังสือเดินทางกับภาพผู้โดยสาร หากไม่พบฐานข้อมูลในระบบคาดการณ์เข้าข่ายพาสปอร์ตปลอมหรือบุคคลต่างด้าว จึงทำการตรวจสอบขั้นตอนต่อไป
ภาพจากอีจัน
หากมีข้อมูลจะทำการเทียบกับใบหน้า หู ตา จมูกและปาก แตกต่างจากภาพที่จัดเก็บในชิพ ด้วยแสงต่างๆ เช่นแสงยูวี แสงอินฟาเรด เป็นต้น
ภาพจากอีจัน
ดังนั้นในระยะเวลาวันที่ 11 ก.ย. – 13 ก.ย. สามารถจับกุมได้ 8 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2562 จำนวน 16 ท่าอากาศยานนานาชาติ สามารถตรวจอนุญาติบุคคลเข้า 10,457,869 คน ตรวจอนุญาติบุคคลออก 7,097,250 คน รวม 17,555,119 คน และนอกจากนี้ตรวจพบแบล็คลิสต์กับวอตช์ลิสต์ 1,123 คน จับบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาติสิ้นสุด 45,669 คน สามารถนำรายได้ค่าปรับเข้าแผ่นดิน 81,301,175 บาท จับกุมตามหมายจับ 662 คน ส่งผลให้เห็นภาพได้ว่าประเทศไทยมีความเป็นมาตฐานระดับสากลในการตรวจสอบ
ภาพจากอีจัน