จับกู้ภัยลูกน้องผู้มีอิทธิพล ใช้มีดแทงหนุ่มไส้ทะลักปางตาย

จับแล้ว กู้ภัยโหดลูกน้องผู้มีอิทธิพล ใช้มีดแทงหนุ่มในงานรำวงไส้ทะลัก อาการสาหัส

เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น .ของวันที่ 13 ก.ย.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามภายใต้การอำนวยการของ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ ปราบปรามภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐวุฒิ หรือยักษ์ พรมเสน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 11 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาล จังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.231/2562 ลงวันที่ 2 เมษายน 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีรับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร”

ภาพจากอีจัน

พฤติการณ์ คดีนี้ได้มี นางเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับการกองปราบปราม ขอให้ติดตามตัวจับกุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งยังจับกุมตัวไม่ได้ โดยนางเอได้ให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหารายดังกล่าว ได้ก่อเหตุใช้มีดแทงสามีของตนจนไส้ทะลักอาการสาหัสปางตาย โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวยังมี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ดูแลอยู่ ทำให้ไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ ซึ่งนางเอได้เข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานหลายหน่วยงานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีได้ แต่อย่างไรจึงเข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับการกองปราบปราบให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพจากอีจัน
คดีนี้เหตุเกิดขึ้นกลางดึกคืนวันที่ 1 เม.ย.2561 คืนเกิดเหตุ นายณัฐวุฒิฯหรือยักษ์ ผู้ต้องหาคดีนี้ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยประจำศูนย์แห่งหนึ่งประจำ อ.สารภี ได้เข้าดูแลความเรียบร้อยงานปอยหลวงประจำปี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้อยู่บริเวณหน้าจุดที่มีการจัดงานรำวง บริเวณด้านข้างเวที ต่อมามีเหตุทะเลาะกันในจุดที่มีงานรำวง นายณัฐวุฒิฯได้ขว้างขวดเข้ามาโดนนายหนึ่ง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ซึ่งนั่งอยู่หน้าเวทีรำวงแล้ววิ่งหลบหนี ผู้เสียหายจึงวิ่งติดตามไป เมื่อตามไปถึงกลับถูกนายยักษ์ ใช้มีดพกกระหน่ำแทงสวนมาใส่นายหนึ่ง จนนายหนึ่งถึงกับไส้ทะลักออกมาก่อนฟุบล้มลงและนอนแน่นิ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุนายยักษ์ ได้วิ่งหลบหนีไป
ภาพจากอีจัน
ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สารภี ให้ดำเนินคดีกับนายยักษ์ และพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับนายยักษ์ ข้อหาพยายามฆ่าและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะฯ เพื่อดำเนินคดีต่อไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้สืบทราบว่านายยักษ์ ได้มาอาศัยอยู่กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เพื่อหลบหนีคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนการจับกุม นายยักษ์ สามารถจับกุมได้ บริเวณลานจอดรถ เทศบาลตำบลสำราญราษฎ์ ต.สำราญราษฏ์ อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่
ภาพจากอีจัน
ภายหลังนายยักษ์ฯ ถูกจับกุมได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ฟังว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด กล่าวคือในคืนเกิดเหตุตนได้เข้าระงับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในงานปอยหลวงประจำปี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน วิ่งเข้ามาจะทำร้ายตน จึงคว้าสิ่งของที่อยู่บริเวณข้างๆ ตวัดไปมาและวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด และปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท จึงฝากไปถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุหรือเที่ยวในงานต่างๆ อย่าคึกคะนองจนทำให้มีผู้อื่นได้รับความเดือนร้อนและซวยถูกลูกหลงในงานอย่างเช่นตน
ภาพจากอีจัน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของนายยักษ์ โดยคดีนี้นายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ให้การขัดแย้งกันกับคำให้การนายยักษ์ ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป