ด้วย กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางโดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป.สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ รองผกก.๕ บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.นาถลดา ศรีสมัยอายุ 55 ปี อาศัยอยู่ ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2757/2561 ลงวันที่11ธันวาคม 2561 ซึ่งต้องหาว่า “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ปลอมและใช้ดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมือง ขององค์การสาธารณะ หรือของเจ้าพนักงาน”
ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2560 ได้มีเอกสารจากสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ส่งมาที่บ้านพักของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ แจ้งว่าให้ พลเอกสุรยุทธ์ฯ ส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถ และนำใบคู่มือจดทะเบียนรถของรถยนต์ยี่ห้อ FIAT สีเขียว ทะเบียน ฆย 1013 กทม. มาบันทึกการระงับทะเบียนรถ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวได้ค้างชำระภาษีติดต่อการครบ 3 ปี ทำให้การจดทะเบียนรถเป็นอันระงับไปตามกฎหมายแต่พลเอกสุรยุทธ์ฯ มิได้เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว จึงประสานขอตรวจสอบเอกสารจากกรมการขนส่งทางบกพบว่า การจดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว มีการปลอมแปลงลายมือชื่อของพลเอกสุรยุทธ์ฯ ในหนังสือมอบอำนาจ อีกทั้งยังปลอมแปลงบัตรประจำตัวองคมนตรี และสำเนาทะเบียนบ้าน ของพลเอกสุรยุทธ์ฯ เป็นเหตุให้พลเอกสุรยุทธฯ ได้รับความเสียหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ปลอมแปลงและนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นจดทะเบียนรถยนต์ คือน.ส.นาถลดา ศรีสมัย ผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
หลังจากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจสอบจนทราบว่าเป็น น.ส.ถลดา ศรีสมัย ขอศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2757/2561 ลงวันที่11ธันวาคม 2561 ซึ่งต้องหาว่า “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ปลอมและใช้ดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมือง ขององค์การสาธารณะ หรือของเจ้าพนักงาน”
จากการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อวันที่ 13กันยายน2562 เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบ น.ส.นาถลดาฯ ผู้ต้องหา อยู่บริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้น.ส.นาถลดาฯ ดูและอ่านจนเข้าใจดีแล้ว น.ส.นาถลดาฯ รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้จริงและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าวนี้มาก่อนจึงจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการซักถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ปัจจุบันผู้ต้องหาประกอบอาชีพรับจ้างเป็นตัวแทนจดทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกง และความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็ค รวมจำนวน 6 ครั้ง จึงเชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง หากผู้เสียหายรายใดเคยถูกผู้ต้องหาก่อเหตุปลอมแปลงเอกสารในลักษณะดังกล่าว สามารถประสานข้อมูลได้ที่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบราม หรือ สน.บางซื่อ