วานนี้ (14 ก.ย. 62) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้โพสต์ข้อความสุดเศร้า ถึงการจากไปของพะยูนที่ทะเลกระบี่ โดยระบุข้อความว่า
"เศร้าอีก พบซากพะยูนตายใกล้เกาะไหง ทะเลกระบี่"
ภาพจากอีจัน
วันที่ 14 กันยายน 2562 กรม ทช. โดยสำนักงานบริหาร ทช.ที่10 (ตรัง) รับแจ้งจากคุณสมศักดิ์ พันธุเมศ กรณีพบซากพะยูน ลอยในทะเลระหว่างเกาะยา และเกาะไหง จ.กระบี่ สภาพซากมีลำไส้ทะลักออกมา ไม่สามารถระบุเพศได้ เนื่องจากลำไส้ทะลักออกมาปิดบริเวณหน้าท้อง เมื่อทราบเรื่องทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เร่งนำเรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ออกไปค้นหาตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.30 น. ซึ่งช่วงดังกล่าวมีฝนตกและคลื่นลมแรง จากความพยายามในการค้นหาตามพื้นที่ที่ได้รับแจ้งมากกว่า 3 ชม. ก็ไม่พบซากพะยูน จึงยุติภารกิจการค้นหา แต่จากภาพซากพะยูน ตามที่ผู้พบได้ถ่ายภาพไว้ คาดว่าพะยูนตัวนี้ จะมีความยาวประมาณ 150 ซม. น้ำหนักประมาณ 80 กก. และคาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5-7 วัน ทั้งนี้ ได้ประสานเครือข่ายในพื้นที่ชายฝั่ง ให้ช่วยกันตรวจสอบตามพื้นที่ชายหาดและในทะเล หากพบเจอซาก ขอให้แจ้งมาที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อไป”
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่า มีรายงานพะยูนตายอีกแล้วครับ พบที่กลางทะเลตรัง นับเป็นตัวที่ 19 ของปีนี้ ยังไม่ได้นำเข้าฝั่ง จึงยังไม่ทราบสาเหตุครับ
ปกติพะยูนตาย 10-12 ตัวต่อปี แต่ปีนี้ยังไม่ถึง 10 เดือน ตายไปแล้ว 19 ตัว ตัวเลขนี้คิดเป็นเกือบ 10% ของพะยูนที่ตรัง-กระบี่ (200 ตัว) มากเกินกว่าการเกิดทดแทนได้ตามธรรมชาติ
เพราะฉะนั้น ปีนี้จำนวนพะยูนเราอาจลดลง หลังจากค่อยๆ เพิ่มมาในระยะหนึ่ง
ภาพจากอีจัน
ผมทราบดีว่าทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ แต่เราคงต้องการอะไรที่พลิกโฉม ยกระดับทั้งหมด โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับผู้คนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยสนับสนุนให้พี่น้องชายฝั่งอยู่ร่วมกับพะยูนได้
ภาพจากอีจัน
#มาเรียมโปรเจ็ค จะเข้าคณะกรรมการทะเลแห่งชาติตอนปลายเดือน หวังว่าทุกอย่างคงเป็นไปด้วยดี เพราะนี่แหละเป็นความหวังที่น่าจะเป็นจริงได้เร็วที่สุดของเรา
เศร้าครับ แต่ต้องพยายามเต็มที่ สิ่งที่ผมพอทำได้คือดันมาเรียมโปรดจ็คให้ผ่าน ส่วนเพื่อนธรณ์ก็ช่วยกันลดขยะทะเล พี่น้องแถวนั้นก็ช่วยกันดูแลพื้นที่ช่วยกันรายงาน
ไม่มีอะไรง่าย แต่เรายอมแพ้ไม่ได้ครับ