สาวสองจำอวัยวะเพศแม่น! ไอ้หื่นจี้ขึ้นดาดฟ้าบังคับทำอนาจาร

สาวสองจำแม่น! ไอ้หื่นใช้มีดจี้คอขึ้นดาดฟ้า บังคับทำอนาจาร ไม่เห็นหน้าแต่จำอวัยวะเพศได้ เพราะไอ้หื่นผ่าเบนซ์

สาวสองผวา! ถูกไอ้หื่นจี้ขึ้นดาดฟ้า บังคับอมนกเขาจนสำเร็จความใคร่ ก่อนชิงโทรศัพท์มือถือหลบหนี

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 66 เวลาประมาณ 04.40 น. ต่อมา น้องริน สาวประเภทสอง อายุ 19 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า มีคนร้ายหื่นบุกเข้าห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านทุ่งเสาในเมืองหาดใหญ่ ขณะกำลังนอนอยู่กับแฟนหนุ่ม โดยก่อนที่คนร้ายจะบุกเข้ามาในห้องพักเกิดไฟดับ ตนจึงเดินออกมาดูข้างนอก คนร้ายจึงใช้มีดจี้คอกลับเข้าห้องพร้อมบังคับจะข่มขืนต่อหน้าแฟนหนุ่ม จากนั้นคนร้ายเปลี่ยนใจ บังคับตนขึ้นไปบนดาดฟ้าด้วย พร้อมกับบังคับทำอนาจารให้ทำออรัลเซ็กส์จนตนอ้วก แล้วคนร้ายก็สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองต่อ ก่อนจะชิงเอาโทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง

น้องริน ผู้เสียหาย บอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจำหน้าคนร้ายไม่ได้ เพราะสวมไอ้โม่งไว้ แต่จำอวัยวะเพศคนร้ายได้ เพราะคนร้ายตัดแต่งอวัยวะเพศเป็นสามแฉก หรือที่เรียกว่า “ผ่าเบนซ์”

ต่อมา พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. สภ.หาดใหญ่ และพ.ต.ต.บัญญัติ สุกิจจารักษ์ สว.สส.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา ได้แกะรอยคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดขณะเดินขึ้นไปในโรงแรมที่อยู่ติดกับหอพักที่เกิเหตุ และปีนดาดฟ้าชั้น 4 ข้ามไปก่อเหตุ จนพบตัว นายภูริวิทย์ อายุ 34 ปี โดยตามไปจับได้ที่บ้านพักย่านถนนเทียนจ่ออุทิศ แต่ยังคงปากแข็งแม้ว่าถึงขั้นต้องดูอวัยวะเพศว่ามีการตัดแต่งหรือไม่ ตามที่ผู้เสียหายให้ปากคำ ผู้ต้องหาก็ยังคงปฏิเสธ

จากการตรวจสอบประวัติของ นายภูริวิทย์ พบเคยก่อคดีพยายามฆ่า จี้พยายามข่มขืน และคดียาเสพติด เคยติดคุกมาแล้วด้วย

เบื้องต้น ตำรวจทำได้เพียงแจ้งข้อหาเสพยา เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดและคุมตัวเอาไว้ก่อน กระทั่งต่อมาผู้ต้องหาดิ้นไม่หลุด เนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอจากคราบอสุจิบนดาดฟ้าและที่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ออกมาแล้วตรงกับนายภูริวิทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับและแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 4 ข้อหา คือ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำด้วยประการใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธและในเคหสถาน, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยการขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้อาวุธ , บุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน และ พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

จากนั้น นายภูริวิทย์ สารภาพทำจริง โดยก่อเหตุสับสวิตช์ไฟให้ไฟดับก่อน เพื่อล่อผู้เสียหายให้ออกมาจากห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว นายภูริวิทย์ ส่งฝากขังตามกระบวนการกฎหมายต่อไป