“นารา เครปกระเทย” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง เธอโด่งดังมาจากการทำคลิปตลก จนมีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนมาก ล่าสุดเธอทำธุรกิจกล่องสุ่มนารา ก็ไม่วายที่จะมีดราม่าอีก
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา มีกระแสดราม่าหนัก ผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านหนึ่งออกมาแฉ “นารา เครปกระเทย” โดยโพสต์รูปภาพและระบุข้อความว่า
“ฝากแชร์ ด้วยครับ อย่าหลงเชื่อ เด่วโดนแบบผม EP.1 #กล่องสุ่มนารา คือเห็นนางโพสต์เฟส กล่องสุ่มทอง เราก้อหลงเชื่อ แรกๆก็คือได้จริง หลังๆ บอกแต่คืนทุน นัดวันเวลาคืน พอถึงวัน เลื่อน ซอยยอด ใครทวงถามไล่ให้ไปฟ้องเอา #นาราเครปกะเทย #จ๊อกๆ #โหนกระแส #สคบ”
ต่อมาก็มีชาวโซเชียลมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งออกมาโต้แย้งแทน และออกมาบอกว่าตัวเองก็โดนเช่นกัน
ยังไม่จบเท่านี้เรื่องนี้ไปถึง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” เช่นกัน โดยระบุข้อความว่า
“ตอนนี้มีประเด็นดราม่ากล่องสุ่มนะครับ เนื่องจากมีหลายท่านที่อยากรวยทางลัด สั่งซื้อกล่องสุ่มที่ผู้ขายอวดอ้างว่า แจกรางวัลเป็นเงิน เป็นทอง หรือของแบรนด์เนม มูลค่าหลายเท่าของเงินที่ซื้อ จนมีผู้หลงเชื่อมากมาย พอสุดท้ายถึงวันครบกำหนด ก็ไม่ส่งของให้ และทยอยคืนเงิน ใครโกรธ ใครทวงก็บอกให้ไปแจ้งความ
ในฐานะนักกฎหมายนะครับ คนขายกล่องสุ่มแบบนี้ ผิดหลายกระทงเลย เพราะอันที่จริงจะขายกล่องสุ่มลุ้นรางวัล ต้องมีการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการ ไม่งั้นมันจะเข้าข่าย พรบ.การพนัน แล้วยิ่งถ้าขายกล่องสุ่มแบบไม่มีของรางวัลจะแจกจริง หลอกเอาเงินคนอื่น มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โทษจำคุกกระทงละ 5 ปี นับเป็นการกระทำผิดเป็นกรรมๆไปครับ” พร้อมกับติดแฮชเท็ก #ขอคนที่ไม่นอน #พี่ๆคะหนูขอโอกาส
ต่อมา “นารา” ได้ทำการไลฟ์สดผ่าน TikTok ของตัวเอง ชี้แจงในประเด็นที่ถูกกล่าวอ้าง โดยบอกว่า รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว จะทำอะไรได้ นอกจากทยอยใช้หนี้ ซึ่งตัวเองไม่อยากโดนตัดแขนตัดขา จะสู้ด้วยการขายของ ไม่มีความคิดที่จะโกงใครทั้งสิ้น และว่า หนี้ก็อยากใช้ให้หมดทุกคน ซึ่งตนขอเวลา ไม่ได้ขอโอกาส
และล่าสุด “นารา” ได้ออกมาโพสต์รูปภาพและข้อความในเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยระบุว่า “วันนี้มาบ้านเข้าธนาคารใช้หนี้ที่เป็นอยู่ รอเวลาอีก1อาทิตย์ ทำทุกวิธีทางให้ทุกคนตั้องได้คืน วันนี้ไม่มีวันต่อไปก็ต้องมี”
ทั้งนี้ เรื่องราวดราม่ากล่องสุ่มนารา จะเป็นอย่างไรต่อไปคงต้องติดตามกันต่อไปครับ