BTS ขึ้นจอทวงหนี้ กทม. วอนคืนเงิน 3 หมื่นล้าน อย่าปล่อยให้เอกชนแบกฝ่ายเดียว

แบกไม่ไหว! BTS ขึ้นจอทวงหนี้ กทม. วอนคืนเงิน 3 หมื่นล้าน ฝากถึงนายกฯ ได้โปรด แก้ไขปัญหานี้ด้วย อย่าปล่อยให้เอกชนแบกฝ่ายเดียว

ทำเอา ผู้โดยสาร BTS ตะลึงกันถ้วนหน้า เมื่อ BTS ขึ้นจอทวงหนี้กทม. วอนนายกฯ แก้ไขปัญหา

วานนี้ 20 พ.ค.2564 โซเชียลแห่แชร์ภาพหลัง BTS ได้เผยแพร่ข้อความผ่านทางสื่อโฆษณาที่สถานีรถไฟฟ้า รวม 98 ขบวน 60 สถานี โดยมีข้อความระบุว่า

“ตามที่กรุงเทพมหานคร และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ค้างชำระค่าจ้างเดินรถกว่า 10,000 ล้านบาท ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลอีก 20,000 ล้านบาท สำหรับการให้บริการเดินรถในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร “บริษัทฯ ได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถบริการเดินรถให้กับประชาชนได้ แม้จะไม่ได้รับชำระค่าจ้าง ทั้งยังจะมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พวกเราขอกราบวิงวอน ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โปรดแก้ไขปัญหานี้ด้วย”

ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ต่อกันไปเป็นวงกว้าง ย้อนไปก่อนหน้านี้ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส โพสต์คลิปชื่อ บีทีเอสส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยในคลิประบุว่า

สวัสดีครับ ท่านผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกท่านครับ ตามที่ปรากฏข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วงที่ผ่านมา เกี่ยวกับปัญหาภาระหนี้สินที่รัฐบาล โดยกรุงเทพมหานครแบกรับค่าก่อสร้าง ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก และค่าโดยสารไม่สูงจนเกินไป รวมทั้งสิ้นกว่าแสนล้านบาท

โดยคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหา ด้วยการขอให้เอกชนรับภาระหนี้สินทั้งหมดกว่าแสนล้านจากรัฐบาล และ กรุงเทพฯไป เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดิน โดยรัฐจะอนุญาตให้สัมปทานเอกชนในการเดินรถ 30 ปี ทั้งนี้ต้องกำหนดค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายทุกเส้นทาง สูงสุดไม่เกิน 65 บาทเท่านั้น

ข้อเสนอดังกล่าวได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ บีทีเอส ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการสนับสนุน และร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว มานานพอสมควร กรุงเทพมหานคร โดย บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ไม่ได้ชำระค่าจ้างเดินรถ จนเป็นเหตุให้มีภาระหนี้ติดค้าง นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 60 เป็นจำนวนเงิน 9,602 ล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ ไฟฟ้าและเครื่องกล ที่ถึงกำหนดชำระจำนวน 20,768 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาระการเงินที่มากเกินกว่า บีทีเอส จะแบกรับต่อไปได้

บริษัท จึงมีความจำเป็นต้องยื่นหนังสือ ทวงถามการชำระหนี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ยังไม่ชำระหนี้ให้บริษัทแต่อย่างใด

จากข้อเท็จจริงจากสภาพปัญหาดังกล่าว บริษัท ได้พยายามอย่างที่สุด ที่จะร่วมรับผิดชอบ ที่จะร่วมหาแนวทางแก้ไขข้อขัดข้อง แต่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาที่ซ้อนปัญหาอยู่ภายใน ซึ่งบริษัท ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ประกอบกับมีบุคคลบางกลุ่ม บางฝ่าย อาจต้องการที่ไม่ให้เรื่องดังกล่าวได้รับการแก้ไข และพยายามสร้างประเด็นต่าง ๆ ขึ้นมาคัดค้าน ต่อต้าน โดยไม่สนใจว่าหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข จะสร้างความเดือดร้อนเสียหายขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะกับผู้โดยสารที่ใช้บริการ

ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา บริษัท ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน และใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสตลอดมา บริษัทขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้บริการระบบขนส่งมวลชน ที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน จะพยายามทำทุกวิถีทาง ที่จะดูแลผู้โดยสารทุกท่านอย่างดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ จากหน่วยงานอื่นของรัฐ ซึ่งโดยลำพัง บริษัทไม่สามารถแก้ไขให้ประสบความสำเร็จได้ และสุดท้ายอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เดือดร้อนแก่ประชาชนได้ บริษัทจึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง และสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้ทราบเบื้องต้น ขอบคุณครับ

ต้องติดตามกันต่อไป ถึงการแก้ไขปัญหานี้