ตำรวจไซเบอร์ รวบ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกขายปืนเถื่อน ก่อน รีดเงินเหยื่อ

ตำรวจไซเบอร์ รวบยกแก๊งค์ สตาร์ทอัพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกขายปืนเถื่อน แถมแบล็กเมล์ รีดเงินเหยื่อซ้ำ

ตำรวจไซเบอร์รวบยกแก๊งค์“สตาร์ทอัพคอลเซ็นเตอร์”หลอกขายปืนเถื่อน แถมแบล็กเมลล์รีดเงินเหยื่อซ้ำ

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา  ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ทำการสืบสวนผู้กระทำความผิดซึ่งเกิดขึ้นในช่องทางสื่อออนไลน์ จนได้พบทวีตเตอร์ชื่อ “น้าจอนปืนเถื่อน” มีพฤติการณ์โพสต์ขายอาวุธปืนไม่มีทะเบียนทางออนไลน์ จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อขอซื้อปืน ในราคา 4,700 บาท ต่อมาทางกลุ่มคนร้ายแจ้งว่าได้ทำการส่งอาวุธปืนมาให้ผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว และได้มีโทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาผู้ที่สั่งอาวุธปืนว่า เป็นการติดต่อมาจากบริษัทขนส่งเคอรี่ ตรวจพบพัสดุที่ผู้สั่งได้สั่ง เป็นพัสดุผิดกฎหมาย แต่ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือ ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ให้ทางผู้สั่งซื้อโอนเงินไปให้ทางพนักงานจำนวน 20,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งเป็นการข่มขู่หลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินอีกรอบ ในลักษณะคล้ายกับการทำงานของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์

ต่อมาในวันนี้ (23 พ.ค.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 ได้รวบรวมหลักฐานและนำหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าทำการตรวจค้นสถานที่จำนวน 4 จุด ได้พบกลุ่มคนร้ายจำนวน 5 คน ซึ่งกลุ่มคนร้ายส่วนใหญ่เป็นเยาวชน อายุไม่ถึง 18 ปี ซึ่งมีเพียงนายบุญมี อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ 295/2566 เพียงคนเดียวที่ไม่ใช่เยาวชน

จากคำให้การทราบว่า เป็นการกระทำร่วมกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจะมีคนจัดหาบัญชีม้า คนทำหน้าที่แอดมินเพจ ที่ใช้หลอกลูกค้า และตอบข้อความลูกค้า คนทำหน้าที่โทรกลับไปข่มขู่เหยื่อ และหลอกว่าเป็นบริษัทขนส่ง อ้างมีของผิดกฎหมาย และผู้ที่ทำการกดเงินที่ได้จากการกระทำความผิดจากบัญชีม้า จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ได้เรียนรู้มาจากกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกัน ที่เคยกระทำความผิดลักษณะนี้ แต่อาจจะมีรูปแบบต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการหลอกขายสินค้าทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย และหลอกให้ทำงาน เป็นต้น ได้ใช้ช่องโหว่ของกฎหมายที่ผู้เสียหายไม่กล้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเกรงกลัวว่าตนเองจะต้องได้รับโทษ เพราะเกิดจากการสั่งสินค้าที่ผิดกฎหมาย กลุ่มคนร้ายจึงย่ามใจกระทำผิดเรื่อยมา เนื่องจากได้เงินดีและไม่มีเหยื่อกล้าที่จะแจ้งความ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ร่วมกันทำมาเป็นเวลากว่า 1 ปี เงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 2 ล้านบาท เงินที่ได้นำมาใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ จึงได้นำผู้ต้องหาและพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เตือนภัย ไม่ควรซื้ออาวุธปืนผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม และไม่หลงเชื่อกลโกงแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่โทรข่มขู่ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”

คลิปอีจันแนะนำ
พิธา ประกาศ MOU 23 ข้อ ร่วม 7 พรรค ตั้งรัฐบาล