เริ่มเลย! เคาท์ดาวน์66 @บางแสน สสส.แท็กทีมชลบุรี ปีใหม่ไร้เหล้า-บุหรี่

สสส.แท็กทีม เมืองแสนสุข ชูหาดบางแสน ก้าวสู่ Universal Beach จัดเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ไร้เหล้า-บุหรี่ เพื่อสุขภาวะ

สสส. สานพลัง เทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี ชูหาดบางแสน โมเดลท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อครอบครัว ก้าวสู่ Universal Beach ชวนชายหาด-สถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ จัดเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ไร้เหล้า-บุหรี่ เพื่อสุขภาวะ

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2565 ที่ ชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี เทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)จัดกิจกรรมการพัฒนาเครือข่ายการลดปัจจัยเสี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบในพื้นที่ชายหาดบางแสนชูโมเดลหาดบางแสนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อครอบครัว Universal Beach ดึงเครือข่ายนักเรียน นักศึกษาดูแลชายหาดเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ชวนนักท่องเที่ยว ครอบครัว เคาท์ดาวน์ปีใหม่ ไร้บุหรี่และแอลกอฮอล์

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายให้ชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้คนทุกรุ่นซึมซับบรรยากาศชายหาดบางแสน เหมือนย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 – 40 ปีก่อน ที่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังได้รับความนิยมมากขึ้นจากการพัฒนาพื้นที่ จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น พบการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่บริเวณชายหาด จนพบปัญหาเรื่องความสะอาดและไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวบางส่วนหายไป จึงสานพลัง สสส. และนิด้า พัฒนาชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวอีกครั้ง สร้างการรับรู้และกฎกติการ่วมกันระหว่าง ผู้ประกอบการ ประชาชน เจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยว นำเทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ และติดกล้องวงจรปิดหลายจุด ขยายพื้นที่รองรับจุดจอดรถ ยกระดับมาตรฐานชายหาดให้เป็นสากลUniversal Beach ที่ต้อนรับคนทุกระดับได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมีฐานะอย่างไรบางแสนจะเป็นที่ท่องเที่ยวของคนทุกกลุ่ม เพราะสะอาด ปลอดภัยสงบ ปีนี้เตรียมจัดงานเคาท์ดาวน์ คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่แหลมแท่น โดยไร้แอลกอฮอล์และบุหรี่ มอบความสุขให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ผศ.ดร.เกศรา สุกเพชร อาจารย์สาขาอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว คณะจัดการท่องเที่ยว นิด้า กล่าวว่า ช่วงหนึ่งชายหาดบางแสนเคยเป็นพื้นที่อบอุ่นให้กับนักท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัว ยุคหลังเริ่มถอยห่างออกไป เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยสาเหตุหลักๆ พบการทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนแรง จึงร่วมพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ดึงผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ ตั้งเป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้สู่คนในพื้นที่ พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และปรับชายหาดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีแต่รอยยิ้ม สภาพแวดล้อมไม่เป็นอันตราย และเป็นมิตรกับผู้สูงอายุ เด็ก และนักท่องเที่ยว ปัจจุบัน 90% ไม่พบการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ในจุดที่ห้ามขาย ขณะที่นักท่องเที่ยวให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนอีก 10% อาจพบพฤติกรรมไม่ปฏิบัติตามกฎ จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตักเตือน

ด้านผศ.ดร.เกศรา กล่าวว่า “เรามาช่วยกันพัฒนาและเปลี่ยนแปลงให้หาดบางแสนปลอดภัยยิ่งขึ้น ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการที่เล็งเห็นความสำคัญการดูแลนักท่องเที่ยว ไม่ให้สูบบุหรี่และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และต้องเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่สูบ ไม่ดื่มประมาณร้อยละ 70% มองว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว และให้โอกาสทุกคนได้เข้ามาเที่ยวอย่างปลอดภัย เพราะสูบบุหรี่ส่งผลกระทบโดยตรงกับการเติบโตทางสมองของเยาวชนทันที”

นายพิทยา จินาวัฒน์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. กล่าวว่า 2 ปี ที่ผ่านมาชายหาดบางแสนเกิดความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น หลังร่วมกับเทศบาลเมืองแสนสุข และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในโครงการพัฒนาพื้นที่ชายหาดบางแสน ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวต้นแบบส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ จนทำให้เป็นชายหาดปลอดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เกือบ 100%  จากความร่วมมือของผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยว ที่ยึดกฎหมายเป็นกติการ่วมกัน เพื่อทำให้ชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่ต้นแบบกับชายหาดอื่นๆ ทั่วประเทศ และต่อยอดโครงการไปในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ อนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นพื้นที่สวยงามและปลอดภัยสำหรับทุกคน ถ้าย้อนดูข้อมูลปี 2564 พบตัวเลขผู้เสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง 8,278 คน/ปีและพบเยาวชนอายุ 15 -24 ปี มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 1.9 ล้านคน การดื่มแล้วขับกว่า 30% ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนถนน 25% จนมีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และความรุนแรงในครอบครัว

และทางด้าน นายพิทยา ได้กล่าวอีกว่า “ตลอด 2 ปี การดำเนินโครงการเห็นความเปลี่ยนแปลงชายหาดบางแสน เป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนควรมีโอกาสท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างปลอดภัย อากาศสะอาด การที่ชายหาดบางแสนปลอดแอลกอฮอล์ ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ทุกครอบครัวที่จะรู้สึกปลอดภัย ซึ่งลดโอกาสที่จะพบผู้ที่เมาแล้วก่อความรำคาญบนหาดบางแสน รวมถึงไม่มีควันบุหรี่มารบกวนด้วย หาดบางแสนน่านั่งมากขึ้น ไม่พบคนดื่มสุราหรือคนสูบบุหรี่ เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบครอบครัว มีเด็กมาเที่ยว เล่นน้ำ รับลมชมวิว อย่างมีความสุข พร้อมกับการได้รับอากาศบริสุทธิ์ จึงยกให้เป็นต้นแบบชายหาดปลอดเหล้า-บุหรี่ โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดูแลกติกาการอยู่ร่วมกัน และจะเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ต่อจนเกิดความยั่งยืน”

ดร.อดิพงษ์ สุขนาค ผู้อำนวยการโรงเรียนแสนสุข กล่าวว่า ในฐานะคนในพื้นที่อยากจะมีส่วนช่วยให้ชายหาดบางแสนเป็นจุดท่องเที่ยวที่ทุกคนมาแล้วรู้สึกสบายใจ และคนในพื้นที่ก็ต้องมีคุณภาพชีวิตดีด้วย จึงดึงเครือข่ายนักเรียน นักศึกษา มีส่วนร่วมดูแลพื้นที่ชายหาดบางแสน สร้างความรู้ ความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และให้คำแนะนำผู้ค้า ให้งดขายเหล้า บุหรี่ ในชายหาดแห่งนี้ ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเกิดความยั่งยืนในพื้นที่

และทางด้าน ดร.อดิพงษ์ ได้กล่าวอีกว่า “นักเรียน นักศึกษาจะรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบุหรี่และแอลกอฮอล์ และตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงพวกนี้ว่า ไม่ใช่เรื่องปกติที่เยาวชนจะดื่มและสูบกัน เมื่อเขารู้ข้อมูลเบื้องต้น เวลาเขาไปทำกิจกรรม เขาก็จะออกแบบกิจกรรมรณรงค์ให้เหมาะกับเยาวชน และผู้ใหญ่ที่เป็นนักท่องเที่ยวด้วย เป็นการร่วมด้วยช่วยกันในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย”

เคาท์ดาวน์ปีนี้มาร่วมเป็นส่งสุขแบบไร้แอลกอฮอล์และบุหรี่ กันนะคะ