กรมอุทยานฯ เดินหน้าเอาผิด เรือประมง 27 ลำ ลักลอบทำประมง ในเขตหวงห้าม

กรมอุทยานฯ เอาจริง! เข้าแจ้ง เรือประมงพาณิชย์ 27 ลำ ลักลอบทำประมง ในพื้นที่อุทยานฯ ตะรุเตา

วันนี้ (20 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น. นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เข้าแจ้งความกล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีเรือประมงพาณิชย์ที่ลักลอบเข้ามาทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล จำนวน 27 ลำ ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน โดยมี พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เป็นผู้รับเรื่องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยตนเอง

สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเปีะ จ.สตูล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านกว่า 200 คน

ซึ่งขณะลงพื้นที่ได้ตรวจสอบพบเรือประมงขนาดใหญ่กำลังลากอวนทำการประมงอยู่ในทะเลใกล้เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล จึงได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ประสานข้อมูลกับกรมประมง ตรวจสอบกรณีเรือประมงที่ลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

จากการตรวจสอบ พบว่ามีเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 27 ลำ เข้ามาทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ในช่วง ธ.ค. 65 ถึงวันที่ 22 ม.ค. 66 จึงได้นำข้อมูลในระบบติดตามเรือประมง (VMS) ที่เข้ามาทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมทั้งเส้นทางการทำประมงของเรือประมงจำนวน 27 ลำ มาตรวจสอบพบว่าจุดที่มีการทำประมงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จำนวน 5 ข้อหา ได้แก่

1.ฐาน ร่วมกันกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 

2. ฐาน ร่วมกันล่อหรือนำสัตว์ป่าอกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 

3. ฐาน ร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 

4. ฐาน ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
5. ฐาน บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด

อย่างไรก็ตาม เรือประมงทั้ง 27 ลำ มีขนาดระหว่าง 40-113 ตันกรอส มีความผิดเกี่ยวกับการเข้าไปล่าสัตว์ (จับสัตว์น้ำ) ในเขตพื้นที่อุทยาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท

คลิปอีจันแนะนำ
ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ลุยสุดกำลัง 19 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ