ไม่เคยลืม! ครบ 13 ปี น้องจีจี้ หายตัวไป กระจกเงาขอโทษ พากลับบ้านไม่ได้

เธอหายไปไหน ขอได้พบเธอ… ครบ 13 ปี น้องจีจี้ หายตัวไป กระจกเงาขอโทษ พากลับบ้านไม่ได้

ถ้าใครที่ติดตาม มูลนิธิกระจกเงา จะต้องเคยได้ยินชื่อของ น้องจีจี้ หรือ เด็กหญิงจีรภัทร ทองชุม อายุ 9 ขวบ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ขณะช่วยแม่ขายพวงมาลัยในปั๊มน้ำมันที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

พี่เอก กระจกเงา หรือ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลค้นหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เผยกับ อีจัน ว่า ภาพสุดท้ายที่เราได้เห็นน้องจีจี้ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ทำให้เห็นอากัปกิริยาน้องจีจี้ที่กำลังขายพวงมาลัย โดยเดินผ่านหน้าร้านสะดวกซื้อไปทางถนนหน้าปั๊ม ก่อนที่หลังจากนั้นไม่มีใครได้พบเห็นน้องจีจี้อีกเลย

และในวันนี้ (18 กันยายน 2566) ครบรอบ 13 ปีเต็ม ที่ น้องจีจี้ หายตัวไป โดยเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์จดหมายถึงน้องจีจี้ ขอโทษที่ตลอด 13 ปี ไม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้

จดหมายของมูลนิธิ กระจกเงา ระบุว่า…

ถึงน้องจีจี้

ตอนนี้น้องจะเป็นยังไงบ้าง พวกเราอยากได้ยินข่าว อยากเจอน้องมากเลยนะ หากมีคำไหนที่อยากจะพูดกับน้องเป็นคำแรก พวกพี่อยากบอกน้องว่า ขอโทษ ตลอด 13 ปีเต็ม ที่พวกพี่ไม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้ ทุกครั้งที่ใกล้ครบรอบวันที่น้องหายตัวไป หัวใจของพวกเราหดหู่ ท้อแท้ หลายครั้งอยากให้ผ่านวันนั้นไป มันเป็นความยากลำบากมากที่เราจะบอกกับผู้คนอื่นๆ ที่คอยติดตามช่วยเหลือและรอฟังข่าวคราวของน้องในวันครบรอบวันที่น้องหายไป ที่พวกเราแทบไม่มีความคืบหน้าใด ๆจนบางคนบอกว่า นี่คือความฝัน ความหวัง ลมๆ แล้งๆ หรือไม่

น้องรู้ไหม มีหลายครั้งที่หัวใจของพวกพี่พองโต ลุกโชนด้วยความหวัง แถมนำพาความหวังนั้นไปยังครอบครัวของน้อง แต่สุดท้ายพวกเราทั้งหมดกลับมาด้วยแววตาผิดหวัง เสียใจ มันสลับวนไปวนมาแบบนี้ นับครั้งไม่ถ้วนตลอด 13 ปี

พวกพี่เคยอ่านบันทึกลายมือของน้องที่เขียนส่งคุณครู “หนูช่วยแม่ทำงานบ้าน กวาดบ้านถูบ้าน และออกไปขายพวงมาลัยช่วยแม่” และนั่นคือภาพสุดท้ายจากวงจรปิด ที่เห็นน้องถือพวงมาลัย ผ่านหน้ากล้อง แล้วหายตัวไปไม่กลับมา

ครบรอบ 13 ปีเต็มที่น้องหายตัวไป ไม่ใช่ว่าไม่มีความสงสัยว่าใครพาน้องไป อย่างน้อย มีบุคคลถึง 2 คน ที่ตำรวจยังไม่จริงจังมากพอ ในการหาคำตอบว่า พวกเขาไปทำอะไรในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ขณะที่น้องหายตัวไป

ไม่ว่าน้องยังมีลมหายใจหรืออาจจากโลกใบนี้ไปแล้ว หน้าที่ของพวกพี่ คือ การพาน้องกลับบ้าน และคืนความยุติธรรมหากมีใครเป็นผู้ก่อเหตุกับน้อง

“หวังว่าเราจะได้พบกัน ไม่ว่าบนโลกใบนี้ หรือดวงดาวสักดวงที่ใจดีกับเราบ้าง”

เอาห้วงคำนึง แขวนไว้ที่ปลายดวงดาว…

พี่เอก มูลนิธิกระจกเงา เล่าย้อนให้อีจันฟังถึงวันที่น้องหายไปว่า ในตอนนั้นที่น้องจีจี้หายตัวไป ครอบครัวพยายามค้นหาบริเวณโดยรอบ เมื่อไม่พบตัว จึงรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแก่งคอย ซึ่งตอนนั้น น้องจีจี้ เพิ่งหายไปเพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่ตำรวจที่ทำหน้าที่ขณะนั้นไม่รับแจ้งความโดยอ้างว่า ยังหายตัวไม่ครบ 24 ชม.

และในช่วง 2 – 3 วันแรกของการหายตัวไปของน้องจีจี้ แทบไม่มีใครรู้ กระทั่งมีนักข่าวท้องถิ่นไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเกิดเหตุ จึงรายงานเป็นข่าว และเกิดเป็นกระแสข่าวดังในเวลาต่อมาเรื่องนี้ ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่มีคนพาน้องจีจี้ไป โดยมีเป้าหมาย 2 กลุ่ม คือ คนที่เด็กอาจรู้จักมาก่อน หรือเป็นคนที่มาใช้บริการปั๊มน้ำมัน หรือจอดรถอยู่หน้าปั๊มน้ำมันในช่วงเกิดเหตุ

ที่สำคัญ การหายตัวไปของน้องจีจี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่มีการออกคำสั่ง ให้ตำรวจรับแจ้งความเด็กหายทันทีไม่ต้องรอหายครบ 24 ชม.

เนื่องจากในตอนนั้น ครอบครัวน้องจีจี้ เดินทางเข้าพบรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ในขณะนั้น) ที่กำกับดูแลงานด้านคนหาย เพื่อให้ช่วยติดตามคดี และได้ยื่นหนังสือกับผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยติดตามปัญหาเด็กหาย ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหนังสือเวียนให้ตำรวจรับแจ้งความคนหายทันทีโดยไม่ต้องรอครบ 24 ชม.

พี่เอก บอกอีกว่า การหายตัวไปของ น้องจีจี้ สะท้อนภาพปัญหาเด็กหายเป็นปรากฏการณ์ที่วันหนึ่งจะเงียบหายไป… และคนลืมเลือน กระทั่งตำรวจเองก็สลับสับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่ง คดีจึงไม่มีผู้ที่สานต่อสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังให้สิ้นสงสัย

“คดีน้องจีจี้มีผู้ต้องสงสัยมากกว่าหนึ่งคน แต่การสืบสวนไปไม่สุด น่าเสียดายที่ไม่มีหน่วยงานใดสานต่อ”

น้องจีจี้ หายตัวไปเมื่อตอนอายุ 9 ขวบ ผ่านไป 13 ปี ปัจจุบันน้องจะมีอายุ 22 ปี แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานขนาดไหน ครอบครัวก็ยังรอน้องอยู่เสมอ… จีจี้ น้องอยู่ที่ไหนกันนะ…