ครูร้องทนายช่วยเหลือ กู้เงินแอปฯ เถื่อน 300 เจ้า ไม่มีคืนโดนขู่ประจาน

ครูสาว ขอความช่วยเหลือ ทนายรณณรงค์ หลังกู้เงินผ่านแอปฯ 300 เจ้า รวม 3 ล้านแต่ได้จริงแค่ 1 ล้าน ไม่มีจ่ายคืนโดนขู่ประจาน-คุกคามครอบครัว

ด้วยเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ทำให้บางคน หันไปกู้เงินนอกระบบ บางคนกู้กับเจ้าหนี้โดยตรง บางคนกู้ผ่านแอปฯ กู้เงิน สุดท้ายถูกทวงหนี้โหด ซ้ำโดนขู่ประจานอีกด้วย

ดังเช่นเรื่องราวของครูสาวรายหนึ่ง เธอได้ร้องขอความช่วยเหลือมาทาง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร หลังตกเป็นเหยื่อเงินกู้ออนไลน์ โดยทนายรณณรงค์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“วันนี้ มีครูจากจังหวัดสุพรรณบุรี มาขอความช่วยเหลือ เนื่องจากตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบผ่านทางไลน์ และแอปฯ เงินกู้ กู้คนเดียว 300 เจ้า เจ้าละ 10,000 บาท เป็นเงิน 3 ล้านบาท แต่ได้เงินจริงรวมแล้ว 1 ล้านบาท ตอนนี้ถูกข่มขู่คุกคามจนอยู่บ้านไม่ได้”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อีจัน จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับ ทนายรณณรงค์ โดย ทนายรณณรงค์ เผยว่า การกู้เงินนอกระบบผ่านแอปพลิเคชั่นเงินกู้ แต่ละครั้งลิมิตของเงินกู้จะอยู่แค่ 3,000 บาท โดยจะมีการทำสัญญาเงินกู้ 3,000 บาท แต่ได้เงินจริง 1,800 บาท ระยะเวลาในการผ่อนชำระ 4 วัน แต่กรณีที่เกิดขึ้น ครูสาวรายนี้ กดเงินกู้ที่แอปพลิเคชั่นทุกตัวในระบบทั้งหมด ซึ่งเธอก็จ่ายคืนครบตามสัญญา และด้วยความที่เธอเป็นลูกค้าชั้นดี จู่ๆ ก็มีไลน์เด้งขึ้นมา ทักเข้ามาหาเธอเยอะมากๆ พร้อมเสนอเงินกู้ให้เธอเจ้าละ 10,000 บาท ข้อเสนอก็เหมือนเดิม คือ มีการหักเอาไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งเธอจะได้เพียงแค่ 60% ของเงินกู้เท่านั้น

พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ทำสัญญากู้ 10,000 บาท ได้เงินจริง 6,000 บาทใช้คืนภายใน 4 วัน แต่เวลาเธอกู้เงินแต่ละที เธอกู้ 30 เจ้าต่อวัน วันที่สองก็ไปกู้กับเจ้าใหม่ที่ทักมา กู้แบบนี้ทุกๆ วัน ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม จนมาถึงเมื่อวานนี้ (20 ก.ย. 65) ที่เธอเพิ่งหยุดจ่ายดอกเบี้ย

ทนายรณรงค์ บอกกับอีจันอีกว่า ตนก็ไม่เชื่อว่าทำไม ยอดการใช้จ่ายเงินมันถึงมีเงินเข้าเป็นหลักล้าน เพราะว่าปกติแอปฯ เงินกู้พวกนี้เต็มที่ก็หลายหมื่น ยังไม่มีใครเคยถึงล้าน แต่พอไล่เรียงปรากฏว่าสาเหตุที่ถึงหลักล้านเพราะว่า ครูท่านนี้กู้วันละหมื่นผ่านไลน์วันหนึ่งไม่ซ้ำกันประมาณ 30 กว่าเจ้าทุกๆ วัน มันก็ได้ประมาณวันละ 3 แสน และพอจ่ายเจ้านี้ไป ก็ไปกู้อีกเจ้าเอาเงินมาโปะ พอได้เงินวันที่ 2 ก็เอามาโปะวันที่ 1 เอาเจ้าอื่นมาจ่ายเจ้าแรก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต้องใช้เงินส่วนตัวปนไปด้วยในการชำระหนี้ เบ็ดเสร็จแล้วจ่ายให้กับแก๊งเงินกู้ทั้งหมดร่วม 3 ล้านบาท แต่เธอได้เงินจากแก๊งเงินกู้มาแค่ล้านกว่าบาท

ส่วนสาเหตุที่กู้ยืมเงินกู้ออนไลน์ เพราะเธอทำธุรกิจส่วนตัวแล้วขาดเงินหมุน ก็เลยต้องไปกู้เงินนอกระบบตรงนี้มา และเธอก็ไม่อยากให้คนรู้ว่าเธอเป็นหนี้ก็เลยไม่บอกใคร

ปัญหาตอนนี้ก็คือพอเธอไม่มีเงินจ่ายให้แล้ว แก๊งเงินกู้ก็ขู่จะทำร้ายเธอที่บ้าน มีภาพ ข้อมูล ที่อยู่ของเธอ โดยแก๊งเงินกู้อ้างว่าเป็นแก๊งเงินกู้ของอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกัน และใกล้กับอำเภอที่เธออาศัยอยู่ เธอก็เลยกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะเธออยู่กับแม่เพียง 2 คน และแม่เธอก็ชรามากแล้ว

“เบื้องต้นก็ได้แนะนำให้ครูไปแจ้งความที่ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ตำรวจก็ให้ครูไปปริ้นเอกสารทั้งหมดออกมาว่าไปกู้อะไรมาบ้าง” ทนายรณณรงค์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ทนายรณณรงค์ ยังอยากเตือนด้วยว่า ถ้าคุณไปกู้เงินผ่านแอปฯ เงินกู้นอกระบบ แก๊งเงินกู้เถื่อนมาแล้ว คุณไม่ต้องไปจ่ายดอก ให้ไปแจ้งตำรวจในอำเภอ เรียกเจ้าหนี้มาแล้วคืนเงินต้น เราไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมาย คนที่ทำผิดกฎหมายก็คือคนที่เก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ส่วนหนึ่งก็อยากเตือนว่า คุณอย่าไปกู้ผ่านแอปฯ เพราะแอปฯ เหล่านี้จะได้ภาพ ข้อมูลของเรา ซึ่งอาจจะมีคนนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี หรือเอาไปหลอกลวงใครต่อก็ได้ ดังนั้นห้ามโหลดแอปฯ เงินกู้เด็ดขาด แอปฯ พวกนี้หลอกลวงต้มตุ๋นทั้งนั้น

คลิปแนะนำอีจัน
ไกล่เกลี่ยราบรื่น! จำเลย – แม่ เข้าใจกันดี คดีแตงโม