ฮือฮา ม.4 ขี่เกวียน ไปเรียน เผย ประหยัด แถม มีรายได้ จากการ รับฝึกวัว

บุรีรัมย์ ฮือฮา น้องแต้ม นร. ม.4 ขี่เกวียน ไปเรียน เป็นครอบครัวสุดท้ายในอำเภอ เผย ประหยัด แถม มีรายได้ จากการ รับฝึกวัว

บุรีรัมย์ฮือฮา ม.4 ขี่ควายเทียมเกวียนไปเรียน หวังประหยัดน้ำมัน อีกทั้งยังได้อนุรักษ์วิถีชาวนาดั้งเดิม ไม่ให้สูญหายไป

เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย. 66) โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอของน้องนักเรียนชายกลุ่มหนึ่ง ขณะพากันขี่ควายเทียมเกวียนไปโรงเรียน จนกลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นักเรียนที่ขี่ควายเทียมเกวียนไปเรียนเป็นนักเรียนโรงเรียนสูงเนินพิทยาคม อำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังโรงเรียนสูงเนินพิทยาคม ต.สูงเนิน อ.กระสัง ก็พบเกวียนจอดอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้กับสนามหญ้า และมีควายเพศผู้ 2 ตัวอยู่บริเวณสนามหญ้าภายในโรงเรียน จากการสอบถามทราบว่า เจ้าของควายและเกวียนดังกล่าว คือ นายพิสิฐ หรือน้องแต้ม อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ส่วนนักเรียนที่นั่งเกวียนมาด้วยเป็นนักเรียนชั้น ม.2 แต่อยู่บ้านใกล้กัน จึงขี่เกวียนมาเรียนด้วยกัน เนื่องจากบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนเกือบ 1 กิโลเมตร เดิมก่อนหน้านี้ก็พากันขี่รถจักรยานยนต์มาโรงเรียน แต่หลังจากน้องแต้ม ขี่เกวียนมาโรงเรียน น้องๆ ก็ขอติดมาด้วย

จากการสอบถาม น้องแต้มให้ข้อมูลว่า ปกติครอบครัวก็ใช้วัวและควายเทียมเกวียนในชีวิตประจำวัน ทั้งขนข้าว ขนหญ้าอยู่แล้ว อีกทั้งตนเองก็ได้รับการฝึกฝนใช้วัว-ควายเทียมเกวียน มาตั้งแต่เด็ก จนเกิดความชำนาญ ปัจจุบันก็รับฝึกวัว-ควายเทียมเกวียน และรับงานแห่ต่างๆ อยู่แล้ว จึงคิดว่าถ้าขี่ควายเทียมเกวียนที่ใช้ในวิถีชีวิต ไปโรงเรียนแทนการขับขี่รถจักรยานยนต์ ก็จะเป็นการประหยัดค่าน้ำมัน ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้เป็นอย่างดี

น้องแต้มบอกว่า หากขี่รถจักรยานยนต์จะต้องเติมน้ำมันเฉลี่ยไปกลับวันละ 20 บาท แต่ถ้าขี่ควายเทียมเกวียนไป ก็ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันเลย ก็จะเหลือเงินเก็บวันละ 20 บาท และยังรับน้องที่บ้านใกล้กันไปด้วยอีกวันละ 3-4 คน ก็ช่วยคนอื่นประหยัดได้อีกด้วย ส่วนควายก็นำไปผูกกินหญ้าที่โรงเรียนได้ด้วย เมื่อถามว่าอายไหมที่ขี่เกวียนมาโรงเรียน น้องแต้มกลับบอกว่า รู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้ช่วยครอบครัวแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานวิถีชีวิตดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า-ตายายด้วย ขณะเดียวกันเพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่โรงเรียนเห็น เขาก็ไม่ได้ล้อเลียนอะไร แต่กลับบอกว่าเท่มากว่า ปัจจุบันก็มีรายได้จากการฝึกวัว-ควายเทียมเกวียน และรับงานแห่ต่างๆ เฉลี่ยเดือนละกว่าหมื่นบาทด้วย

ด้านนายจิรวัฒน์ ดีล้อม อาจารย์ที่ปรึกษา บอกว่า การที่น้องขี่มาโรงเรียนหรือการใช้เกวียนในชีวิตประจำวัน ยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานวิถีชีวิตของเกษตรกรไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า-ตายาย อีกด้วย เพราะปัจจุบันแทบไม่มีใครใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่อนุรักษ์ไว้อนาคตก็อาจจะเห็นแต่ในพิพิธภัณฑ์ก็ได้

ขณะที่นายปาน อายุ 75 ปี ตาของน้องแต้ม บอกว่า ตนเป็นคนสอนหลานให้ใช้วัว-ควายเทียม เกวียนมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะอยากให้หลานได้ซึมซับวิถีชีวิตดั้งเดิม จะได้อนุรักษ์สืบต่อจากตนเอง เพราะปัจจุบันแทบจะไม่มีใครใช้วัว หรือควายเทียมเกวียนแล้ว ในหมู่บ้านก็เหลือแค่ครอบครัวเดียว หากไม่มีใครอนุรักษ์ไว้ก็คงจะสูญหายไป ก็รู้สึกภูมิใจในตัวหลานที่สามารถใช้วิถีชีวิตดั้งเดิมหารายได้เลี้ยงตัวเอง และแบ่งเบาภาระครอบครัว

วิถีดีๆแบบนี้ อีจันขอชื่นชมครับ

คลิปอีจันแนะนำ
ลุ้นระทึก! หนุ่มปั๊มหัวใจ ช่วยชายหมดสติ หลังรถกระบะ