จุรินทร์หารือทวิภาคี ดันกล้วยไทยส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่มอีก 5,000 ตัน

จุรินทร์ แถลงผลหารือ ทวิภาคี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ดันส่งออกกล้วยไทย ไปญี่ปุ่นเพิ่มอีก 5,000 ตัน

วานนี้ (16 พ.ย.65) เวลา 18.30 น. นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลภายหลังการหารือ ทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นนายนิชิมูระ ยาสุโทที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ โดยก่อนหน้านายจุรินทร์เดินทางไปงานประกวดข้าวโลก ที่จังหวัดภูเก็ต และเดินทางมาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีกับประเทศญี่ปุ่น ก่อนการเลี้ยงอาหารค่ำรัฐมนตรีเอเปคในคืนนี้

นายจุรินทร์ได้กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสหารือ กับท่านรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น หรือ MITI ประเด็นที่ญี่ปุ่นได้ยกขึ้นมามี 3 ประเด็น ประเด็นแรกเป็นโครงการญี่ปุ่นจัดขึ้นเพื่อฉลองความสัมพันธ์นี้ครบรอบ 50 ปี ระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียน มีนโยบายที่เรียกว่า Co-create Vision จับมือกับอาเซียนสร้างเครือข่ายทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

1.การสร้างเครือข่าย 100 เครือข่ายระหว่างเอกชนญี่ปุ่นกับเอกชนของอาเซียนจับคู่กัน เช่น ร่วมลงทุนซื้อขายสินค้าบริการด้วยกันหรือจับคู่ทางธุรกิจอื่นเป็นต้น

 2.การจับคู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชน การทำงานด้านการผลิตสินค้าและบริการร่วมกัน โดยใช้ซัพพลายเชน วัตถุดิบ การแปรรูประหว่างกันทั้งญี่ปุ่นทั้งอาเซียนให้ได้ 100  เคส 

3.โครงการการร่วมกันระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียนแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม 100 เคส  เช่น BCG หรือ Green Economy ซึ่งตนตอบรับด้วยความยินดี โดยทางญี่ปุ่นแจ้งให้ทราบว่าเตรียมงบประมาณ 8,000 ล้านเยนหรือประมาณ 2,100 ล้านบาท

ทางด้านนายจุรินทร์ ได้หยิบยกมา 2 ประเด็น ประเด็นที่หนึ่งคือ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า JTEPA  ที่ญี่ปุ่นให้โควตาส่งออกกล้วยของไทยไปญี่ปุ่นปีละ 8,000 ตัน ที่ผ่านมาเราใช้ประโยชน์ได้แค่ 3,000 ตัน ยังขาดอยู่อีก 5,000 ตัน ที่ยังใช้โควตานี้ไม่หมดเพราะเกิดปัญหาอุปสรรค ของภาคการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานข้อกำหนดค่อนข้างซับซ้อน ขอความร่วมมือจากท่านรัฐมนตรีฯให้กระทรวง MITI ช่วยบริหารจัดการให้ JETRO เข้ามามีบทบาทให้ข้อมูลและความรู้ทั้งกฎเกณฑ์กติกาวิชาการร่วมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆให้เกษตรกรของไทยด้วย

ทางกระทรวงพาณิชย์จะเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ให้เกษตรกรได้ใช้โควตาให้ครบอีก 5,000 ตันต่อไป สร้างรายได้ให้ประเทศและรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยของไทยต่อไป

เรื่องที่สอง ตนขอให้คณะท่านรัฐมนตรีรับ ประเทศไทยประกอบการพิจารณา ให้ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัด Specialized Expo 2028 ด้วย ซึ่งท่านรัฐมนตรีได้ รับไปประกอบการพิจารณาต่อไป

สำหรับงาน Specialized Expo 2028 ประเทศไทยในฐานะสมาชิก BIE (Bureau International des Expositions หรือองค์การนิทรรศการนานาชาติ) ได้ยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028  ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวใจสำคัญของการจัดงานคือ การใช้พื้นที่พัฒนา สู่ศูนย์กลางด้านสุขภาพครบวงจร เพื่อนำเสนอภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางสุขภาพชั้นนำของโลก และส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไทยมีศักยภาพ ซึ่งจะจัดให้มีการเลือกประเทศเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวในเดือนมิถุนายน 2566

คลิปอีจันแนะนำ
เชฟตัวจิ๋ว วัยอนุบาล