กรมราชทัณฑ์ ขยายโอกาสด้านอาชีพฝึกมวยไทยให้ผู้ต้องขัง

ฝึกวิชาชีพชกมวยไทย ให้กับผู้ต้องขังขยายโอกาสด้านอาชีพก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขังคืนสู่สังคมลดการหวนกระทำผิดซ้ำ

ขยายโอกาสด้านอาชีพฝึกวิชาชีพมวยไทยให้ผู้ต้องขัง

ทางกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับบริษัท หยกขาวบ๊อกซิ่ง จำกัด MOUการฝึกวิชาชีพชกมวยไทยให้กับผู้ต้องขังขยายโอกาสด้านอาชีพก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขังคืนสู่สังคมลดการหวนกระทำผิดซ้ำ

ที่ทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

นายอายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมิสเตอร์ฟิลิปส์วิลล่า กรรมการบริษัท หยกขาวบ๊อกซิ่ง จำกัด โดยมีนายธิตินัย พาติกบุตร ผู้อำนวยการทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา และผู้อำนวยการในเขตเป็นสักขีพยานในการ MOU ฝึกวิชาชีพชกมวยไทยให้กับผู้ต้องขัง 

สำหรับการจับมือเพื่อฝึกวิชาชีพชกมวยไทยให้กับผู้ต้องขังในครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ต้องการขยายโอกาสด้านอาชีพให้กับผู้ต้องขังก่อนปล่อยคืนสู่สังคม ลดการหวนกระทำผิดซ้ำ

โอกาสนี้บริษัท หยกขาวบ๊อกซิ่งจำกัด ยังสนับสนุนอุปกรณ์การฝึกซ้อมมวยไทย และเทรนเนอร์ประจำค่าย มาร่วมฝึกสอนเทคนิคที่ถูกต้องและมีความเป็นสากลให้กับผู้ต้องขังที่อยู่ภายในทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจาด้วย

ทางด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์  เปิดเผยว่ากรมราชทัณฑ์ มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนอาชีพ ให้กับผู้ต้องขังที่เคยพลั้งพลาดและมวยไทยก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่คนเหล่านี้จะใช้เป็นอาชีพในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ด้วยการปรับทัศนคติใหม่ในการพัฒนาตนเองและยึดอาชีพมวยไทยในการดำรงชีวิตประจำวัน และยังเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ 

และยังมีนายศุภชัยแสนพงษ์หรือแสนชัยพี.เค.แสนชัยมวยไทยยิมยอดมวยไทยและนักชกมวยสากลระดับแถวหน้าของประเทศที่ได้เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมสอนเทคนิคมวยไทยได้บอกว่ามวยไทยเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้หากผู้ต้องขังมีความชอบและรู้จักเทคนิคการชกที่ดีจะสามารถพาตัว  

เองไปในเวทีมวยที่ระดับสูงได้และปัจจุบันจากการผลักดันมวยไทยเป็น Soft Power จะยิ่งทำให้ชาวต่างชาติรู้จักมวยไทยมากขึ้น หากผู้ต้องขังพ้นโทษไป ยังสามารถไปสมัครเป็นคู่ซ้อมมวยตามยิมต่างๆ สร้างรายได้ ได้อีกเช่นกัน