กระทรวงยุติธรรม รับเรื่องเหยื่อ 4 เคส ที่ “ปวีณา” ส่งต่อเพื่อช่วยเหลือ

กระทรวงยุติธรรมรับเรื่อง กรณี ลูกและแม่ถูกพ่อทำร้าย เด็กหญิง 3 ขวบถูกอนาจาร เด็กถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน และผู้เสียหายถูกตำรวจเมาขับรถชน หลัง “ปวีณา หงสกุล” พาผู้เสียหายเข้าขอความช่วยเหลือ

“เราพร้อมยืนเคียงข้างผู้บริสุทธิ์ และจะไม่หยุดช่วยเหลือ เพื่อความยุติธรรม” 

กระทรวงยุติธรรมรับเรื่อง ให้ความช่วยเหลือแล้วค่ะ สำหรับ กรณี ลูกและแม่ถูกพ่อทำร้าย เด็กหญิง 3 ขวบถูกอนาจาร ลูกเลี้ยงถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน และผู้เสียหายถูกตำรวจเมาขับชน ตาย 2 เจ็บ 2 หลังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี พาผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือ 

วันนี้ (28 ก.ย. 66) เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ชั้น 1 กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมรับเรื่องการให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกกระทำ 

โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี พาผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือ ต่อกระทรวงยุติธรรม ซึ่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้มอบหมายให้นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ พร้อมนางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา 

ทั้งนี้ นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม และนางสาวปรักมาศ พิมเสน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคุ้มครองพยาน ได้รับเรื่อง 4 กรณี ดังนี้ 

1. กรณีเด็กอายุ 4 ขวบ และแม่ ถูกพ่อทำร้ายและใช้บุหรี่จี้ใบหน้าและลำตัว เหตุเกิดในพื้นที่ กทม. โดยได้แจ้งสิทธิและรับคำขอช่วยเหลือเยียวยาแล้ว พร้อมทั้งจะนำเสนอคณะอนุกรรมการฯ ประจำกรุงเทพมหานคร 

2. กรณีเด็กหญิงอายุ 3 ปี ถูก ผอ. ศูนย์เด็กเล็กฯ อนาจาร เหตุเกิดในพื้นที่ จังหวัดบุรีรัมย์  โดยได้แจ้งสิทธิ และรับคำขอช่วยเหลือเยียวยาแล้ว พร้อมทั้งจะจัดส่งให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อนำเสนอคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดบุรีรัมย์  

3. กรณีน้องสาวถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และมีลูกด้วยกัน 3 คน ผู้เสียหายได้แจ้งความ เหตุเกิดในพื้นที่ กทม. และจังหวัดกำแพงเพชร โดยได้แจ้งสิทธิ และรับคำขอช่วยเหลือเยียวยาแล้ว พร้อมทั้งจะนำเสนอ คณะอนุกรรมการฯ ประจำกรุงเทพมหานคร 

4. กรณีตำรวจนายหนึ่ง เมาแล้วขับชนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ สาหัส 2 ราย เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำเสนอคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดอยุธยา พิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 4 รายแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  351,065 บาท 

ในการนี้ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้แจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย แก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 กรณีตกเป็นผู้เสียหาย ได้รับความเสียหายแก่กาย (บาดเจ็บ) จากการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น โดยที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับการเยียวยาตามพระราชบัญญัติ ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้แก่   

1. ค่ารักษาพยาบาล เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท  

2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท 

3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ตามค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่เกิน 1 ปี 

4. ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท 

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ กรุงเทพมหานคร และบุรีรัมย์ ในพื้นที่เกิดเหตุเป็นสำคัญ 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่ออำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย  

โดยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77  

คลิปอีจันแนะนำ
ชัยวัฒน์ ตัดพ้อ แทบจะไม่มีที่ยืนในวันที่โดนกล่าวหา “ฆ่า-อำพราง บิลลี่”