18 พฤษภาคม 2566 ที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยหมู่ 1 ตำบลเปือยน้อย อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น
มีชาวบ้านในอำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย รวมตัวกันเดินทางมารอฟังคำชี้แจงจากผู้บริหารของสหกรณ์ กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเปือยน้อย และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เปือยน้อย ให้ตรวจสอบเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของสหกรณ์ ที่พบว่า เงินฝากสหกรณ์กว่า 12 ล้าน อาจถูกยักยอก หายไป
นอกจากเรื่องเงินฝากออมทรัพย์ในบัญชีของสหกรณ์ถูกยักยอกไปแล้ว
ชาวบ้านยังได้รับความเสียหายจากกรณีเงินหุ้นที่ชาวบ้านซื้อเอาไว้กับทางสหกรณ์
และเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ที่ชาวบ้านได้จ่ายเงินทุกเดือน เป็นค่าสมาชิกแต่เมื่อมีผู้เสียชีวิตกลับไม่ได้รับเงินตามสิทธิ์ที่ระบุไว้
โดยได้รับคำตอบว่าชาวบ้านที่เป็นสมาชิกไม่ยอมจ่ายเงิน
ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียนมาจ่ายให้กับชาวบ้าน
โดยวันนี้ พ.ต.อ.เดชาธร ดีมี ผกก.สภ.เปือยน้อย พร้อม เจ้าหน้าที่จากสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เรียกตัวแทนชาวบ้านทั้งสามกรณีที่เกิดขึ้น มาร่วมกันประชุมกับ สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย
เพื่อหาข้อสรุปของเหตุการณ์ และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งในทางอาญาและทางวินัย
ซึ่ง นายสมศักดิ์ แก้วอาสา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย เปิดเผยในที่ประชุม ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น คือยอดเงินในสเตทเม้นท์กับบัญชีของสมาชิกไม่ตรงกัน ซึ่งทางสหกรณ์ได้งดให้บริการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และตรวจสอบพบตัวเจ้าหน้าที่การเงินที่ยักยอกเงินของสมาชิกไปรวมทั้งสิ้น 12 ล้านบาทเศษ
โดยเจ้าหน้าที่การเงินที่ยักยอกเงินไปนั้นสารภาพกับทางสหกรณ์ว่าปลอมแปลงเอกสารต่างๆ ขึ้นมาเพียงคนเดียว
วิธีการคือ เมื่อสมาชิกนำเงินมาฝากก็จะทำการคีย์ข้อมูลอัพเดทสมุดเงินฝากของสมาชิกให้ตรงตามที่สมาชิกทำทธุรกรรมในเรื่องของการเบิกถอนเบิกจ่ายและหลังจากที่เสร็จทุกขั้นตอน ส่งมอบสมุดคืนให้กับสมาชิกก็ทำการยกเลิกข้อมูลแล้วโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง
เมื่อตรวจสอบพบความผิด ได้ทำการพักงานผู้ก่อเหตุไว้เพื่อรอตรวจสอบและดำเนินคดีตามขั้นตอน
ซึ่งทางสหกรณ์ ได้มีการบันทึกถ้อยคำรับสารภาพเอาไว้ทั้งหมดแล้ว โดยจะมอบเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมายหลังจากนี้
ในส่วนของเงินที่ถูกยักยอกไปนั้นทางสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย อยู่ระหว่างขั้นตอนของการตรวจสอบเทียบยอดเงินในสเตทเม้นท์กับบัญชีของสมาชิกให้ถูกต้องตามจริงและลงลายมือชื่อกำกับ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนจ่ายเงินให้กับสมาชิกทั้งหมดตามจริงที่ได้รับความเสียหายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
ส่วนอีก 2 กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนเพิ่มขึ้นมา จะมีเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
โดยหลังการประชุม ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย ยังต้องการให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะไม่เชื่อว่า เงินจำนวนมาก ที่ถูกยักยอกไป มีเจ้าหน้าที่ก่อเหตุเพียงคนเดียว และเงินที่ถูกยักยอก อาจมีมากกว่า 10 ล้านบาท ตามที่มีการแจ้งไว้
และจต้องการให้สหกรณ์หาเงินมาจ่ายให้ชาวบ้านก่อน เนื่องจากชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ควรรับผิดชอบเยียวยาชาวบ้านก่อนในเบื้องต้น
