สาวร้อง “ปวีณา” ต้องเสียลูกในท้อง เพราะรอส่งตัวนาน 19 ชม.

แม่ชาวระยอง ร้องปวีณา ต้องเสียลูกในท้อง เพราะรอส่งตัวทำคลอดนาน 19 ชั่วโมง ติดใจโรงพยาบาลส่งตัวช้า ยืนยันจะยังไม่เผาศพลูกจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (21 พ.ค. 66) น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เดินทางจาก จ.ระยอง เข้าร้องทุกข์ นางปวีณาหงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเสียลูกไป ติดใจโรงพยาบาลส่งตัวช้า ทั้งที่ครรภ์เป็นพิษ ยืนยันจะยังไม่เผาศพลูกจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

น.ส.นิด เล่าว่า วันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 08.00 น. ครบกำหนดคลอดลูก จึงได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่ง ที่ จ.ระยอง หมอตรวจพบว่ามีความดันสูงและมีภาวะครรภ์เป็นพิษ จึงทำการอัลตร้าซาวด์ตอนช่วงเวลา 15.00 น.

พยาบาลบอกกับตนว่า ตอนนี้เด็กยังไม่กลับหัวและหันก้นออก จึงให้นอนรอคลอดที่โรงพยาบาล และได้ให้ยาเหน็บเร่งคลอด 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน 18.00 น. ครั้งที่สอง ตอนเที่ยงคืน

กระทั่ง วันที่ 10 พ.ค. ช่วงเวลา 02.00 น. ตนรู้สึกว่ามีอาการน้ำเดินจึงแจ้งพยาบาล หมอทำการตรวจพบว่าปากมดลูกเปิด 4 ซม. แต่เด็กยังไม่กลับหัวเลยทำคลอดไม่ได้ ต้องส่งตัวไปคลอดที่โรงพยาบาลจังหวัด

ตนนอนรอจนเกือบ 04.00 น. ถึงได้ถูกส่งตัวไป ตอนนั้นแพทย์ตรวจพบว่าเด็กยังมีชีพจรอยู่ และไปถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัดตอนเวลาประมาณ 05.00 น. แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลประจำจังหวัดมาตรวจบอกให้แม่ทำใจเพราะพบว่าเด็กไม่มีชีพจรแล้ว ซึ่งตอนนั้นแม่ใจสลายที่เสียลูก ขณะเดียวกันมดลูกก็เปิดเต็มที่จึงได้เบ่งคลอดลูกที่ไร้วิญญาณออกมาตามธรรมชาติ และแม่ก็อาการแย่เกือบจะไม่รอด ความดันโลหิตสูงถึง 170 แต่แพทย์ช่วยไว้ได้ทัน

น.ส.นิด ยังกล่าวอีกว่า ปกติเวลาตรวจพบว่าครรภ์เป็นพิษต้องรีบผ่าคลอด เพราะอาจเป็นอันตรายทั้งแม่และเด็ก ตนจึงสงสัยว่า

1. ทำไมโรงพยาบาลอำเภอถึงไม่รีบส่งตัวหนูตั้งแต่ตรวจพบครรภ์เป็นพิษช่วงบ่าย 3 เมื่อรู้ว่าทางโรงพยาบาลผ่าคลอดไม่ได้ รวมเวลาที่อยู่โรงพยาบาลอำเภอถึง 19 ชั่วโมง จนเด็กเสียชีวิตในท้อง ถ้าหากส่งตัวหนูไปโรงพยาบาลจังหวัดเร็วกว่านี้ลูกหนูคงไม่ตาย

2. อยากให้โรงพยาบาลชี้แจงสาเหตุและให้ความเป็นธรรมกับลูกของตน

น.ส.นิด ย้ำว่า

“หนูไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีก ไม่มีใครที่ไม่เสียใจ เพราะอุ้มท้องมาถึง 9 เดือน ความรู้สึกคนเป็นแม่ก็แย่ทุกคน แล้วถ้าหนูเสียชีวิตไปกับน้องด้วย ใครจะเลี้ยงลูกหนูอีก 2 คน ที่ยังเล็กและกำลังเรียนหนังสือ ยังดีที่โรงพยาบาลจังหวัดช่วยชีวิตหนูไว้ได้ทัน ตอนนี้หนูตั้งศพลูกไว้ที่วัดป่าหวาย ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และจะยังไม่เผาศพลูกจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม จึงมาขอพบ นางปวีณา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกหนูด้วย”

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง ที่ผู้เสียหายไปลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากผู้เสียหายแจ้งว่า สภ.ปลวกแดง ไม่รับแจ้งความ ทั้งนี้หากจะต้องส่งมีการชันสูตร นางปวีณา จะประสานทาง พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว เพื่อส่งศพเด็กมาชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมกันนี้ นางปวีณา ได้ประสาน นางนพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดูแลสภาพจิตใจผู้เสียหาย

นางปวีณา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว น.ส.นิด เรื่องนี้ต้องให้กระทรวงสาธารณสุขตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทำไมน.ส.นิด มาโรงพยาบาลและตรวจพบครรภ์เป็นพิษเวลา 15.00 น. ผ่านไป 13 ชั่วโมง แล้วไม่มีใครตัดสินใจที่จะส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัดก่อนหน้านี้หรือ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดให้ได้รับข้อสรุปเพื่อผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมต่อไป

ทั้งนี้ นางปวีณา ได้ประสาน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง นพ.รุ่งเรือง รับปากจะเร่งดำเนินการตรวจสอบ และส่งเรื่องให้สาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ต่อไป

อีจัน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยนะครับ

คลิปอีจันแนะนำ
ด.ญ.3 ขวบ หายกลายเป็นศพ ถูกข่มขืนฆ่า โยนทิ้งน้ำ! @นราธิวาส