วันที่ 25 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง เรื่องราวสุดสลด เมื่อเด็กชายวัย 9 ขวบ ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุด ออกรับจ้างหักข้าวโพดบนเขา เพื่อนำเงินไปซื้อรถบังคับ แต่เคราะห์ร้าย ถูกปืนที่ใช้ดักสัตว์ลั่นใส่จนเสียชีวิต หนำซ้ำครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องไปหยิบยืมเงินมาจัดงานศพ
ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่ วัดห้วยตูมสุทธาวาส ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ด.ช.ชัยกร หรือน้องเซเว่น อายุ 9 ปี บรรจุอยู่ในโลงเย็น มีเพียงดอกไม้กระดาษที่ใช้ประดับโลงและมีพวงหรีดแสดงความเสียใจ โดยมีชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ต่างกำลังช่วยกันจัดเตรียมข้าวปลาอาหารไว้สำหรับเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน
นางทองเปี่ยม อายุ 47 ปี แม่ของน้องเซเว่น ผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ทางครอบครัวตนเอง มีฐานะยากจน ตนและสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีงานบ้าง ไม่มีงานบ้าง ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนกับน้องเซเว่นได้ไปที่ตลาด และลูกชายอยากได้ของเล่นเป็นรถบังคับราคาเกือบ 300 บาท แต่ตนไม่มีเงินซื้อให้ โดยน้องเซเว่นได้ถามตนว่า ถ้าเก็บเงินวันละ 20 บาท จะเก็บกี่วันถึงจะซื้อรถบังคับได้ ตนจึงบอกว่าประมาณสิบกว่าวัน และในวันต่อมา ลูกชายก็ได้ใช้เวลาช่วงวันหยุด ออกไปหาจับปู จับปลาในคลองและตามแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อนำมาให้ตนเอาไปขาย เพื่อรวบรวมเงินทีละเล็กน้อย ไว้ซื้อรถบังคับ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ต.ค.65 ที่ผ่านมา จึงขอไปรับจ้างเก็บข้าวโพดบนเขา โดยได้ค่าจ้างถุงปุ๋ยละ 20 บาท โดยเดินทางออกไปกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันอีก 2 คน ตั้งแต่เช้า ส่วนตนและสามีก็ไปรับจ้างอีกแห่งหนึ่ง
กระทั่งประมาณบ่าย 2 มีคนมาบอกว่าลูกชายโดนอาวุธบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชนแดน ตนจึงรีบไปดูแต่เนื่องจากอาการหนักมาก จึงได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ กระทั่งลูกชายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนและสามี ต่างติดใจสาเหตุการตาย หมอบอกว่าบาดแผลใหญ่มาก ลึกมาก ไม่น่าใช่ประทัด จึงอยากหาสาเหตุว่าโดนอะไรกันแน่ จึงได้ส่งร่างไปผ่าพิสูจน์ที่จังหวัดพิษณุโลก ผลปรากฏว่าบาดแผลดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืน จนเป็นแผลขนาดใหญ่ที่หน้าท้องจนไส้ทะลักออกมาข้างนอก
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปืนยาวไทยประดิษฐ์ดัดแปลงสำหรับไว้ยิงสัตว์ ตกอยู่ที่พื้นกระต๊อบ ในแปลงข้าวโพดที่ลูกชายไปรับจ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งเชิญตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางทองเปี่ยม เปิดเผยอีกว่า ตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเงินทำศพรวมทั้งค่านำศพไปผ่าพิสูจน์ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ต้องไปหยิบยืมคนรู้จักกันมาจำนวนหนึ่ง และมีชาวบ้านที่สงสารก็รวบรวมเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยจัดงานศพ แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะต้องตั้งศพไว้ถึง 3 วัน ไม่สามารถเผาได้เลยโดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพุธ ที่ 26 ต.ค. 2565 ที่จะถึงนี้
แม่ของน้องเซเว่น เล่าว่า ก่อนลูกเสียชีวิต ประมาณ 2 วัน มีลางสังหรณ์ เพราะลูกเปลี่ยนไป ไม่ค่อยพูดกับใคร และเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้ใหม่ แขวนในตู้ เขาก็พูดว่า ตัวนี้ไม่มีวันใส่ ตัวนี้ก็จะไม่มีวันใส่ พูดแต่อย่างนี้ จึงรู้สึกสังหรณ์ใจ ทำไมลูกพูดอย่างนี้ ไม่คิดว่าจะไปแบบนี้ และที่เขาไปหักข้าวโพด ลูกอยากได้รถบังคับ จะเก็บเงินวันละ 20 บาท อยากได้รถบังคับ คันละเกือบ 300 บาท ซึ่งลูกชายไปได้เพียงแค่ 2 วัน ได้เงิน 40 บาท ค่าจ้างถุงปุ๋ยละ 20 บาท เขาก็เอาเงินมาให้เมื่อวาน 40 บาท เป็นค่าหักข้าวโพด
ด้าน นายชิต อายุ 56 ปี คนนำเด็กส่ง รพ.ชนแดน เผยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองก็หักข้าวโพดอยู่ข้างบน ได้ยินเสียงปืนดัง แต่ไม่ทราบว่าดังตรงไหน จึงหักข้าวโพดต่อ สักพักก็ได้ยินเสียงร้องเอะอะ โวยวาย และได้ยินพูดว่า โดนไส้แตก มีผู้หญิงวิ่งออกมา ตนเองจึงรีบมาดู ก็เห็นเด็กถูกยิงไส้แตก ตนก็รีบอุ้มเด็กไว้ นำส่งโรงพยาบาล ทั้งตกใจ ทั้งทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
อีจันขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
คลิปอีจันแนะนำ
นึกว่ามีแค่ในหนัง แก๊งค้ายา กดรีโมทเปลี่ยนป้ายทะเบียน