สวยแต่รูปโดนแล้วเจ็บ! แมงกะพรุนหัวขวด

เล่นน้ำทะเลช่วงนี้ ระวัง! แมงกะพรุนหัวขวด สีสวยแต่อันตราย พิษร้ายมีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และผิวหนัง

วันหยุดนี้ใครไปเที่ยวทะเลภาคใต้ตอนล่าง ระวัง! แมงกะพรุนหัวขวด มีมากในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดผ่านจากบกลงทะเลฝั่งตะวันออก

 ครีมทากันแมงกะพรุน : https://s.lazada.co.th/l.WW2I

นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา บอกว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 18 ก.ค.66 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุนแล้ว 2 ราย ตำแหน่งที่สัมผัสพิษแมงกะพรุนส่วนใหญ่ คือบริเวณมือ เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บลงไปเล่นน้ำทะเล บริเวณชายหาดสมิหลา และชายหาดชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา 

สำหรับ “แมงกะพรุนหัวขวด” มีลักษณะส่วนบนลอยโผล่พ้นน้ำคล้ายลูกโป่งรูปร่างรี ยาว คล้ายหมวกของทหารเรือชาวโปรตุเกส มีหนวดยาวสีฟ้าหรือสีม่วง มีเข็มพิษ (nematocyst) สำหรับป้องกันตัวและจับเหยื่อ กระจายอยู่ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหนวด (tentacle) ส่วนพิษของแมงกะพรุนหัวขวด มีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และผิวหนัง ส่วนใหญ่ผู้ที่สัมผัสพิษจะมีอาการคัน และปวดแสบปวดร้อนในเบื้องต้น

การแสดงอาการของพิษในผู้ป่วยแต่ละบุคคลความรุนแรงจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย ความต้านทาน และปริมาณพิษที่ได้รับ

ดังนั้น เตือนกันดัง ๆ ว่าก่อนลงเล่นน้ำทะเลให้สังเกตป้ายด้วยว่ามีป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน หรือไม่ ถ้ามีป้ายแจ้งเตือนไม่ควรลงเล่นน้ำ ลงเล่นน้ำทะเล ขอให้สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแนบตัว

หากพบผู้ที่สงสัยถูกพิษแมงกะพรุน ห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นจากการกระจายของพิษแมงกะพรุน

ถ้าได้รับพิษแมงกะพรุนหัวขวด วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนอย่างน้อย 30 วินาที และให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที ห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำเปล่า เหล้า โซดา หรืออื่นๆ ไปเทราดเป็นอันขาด เนื่องจากจะกระตุ้นพิษให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ห้ามถูหรือขยี้ เพราะจะทำให้พิษยิ่งแพร่กระจายมากขึ้น ที่สำคัญเลี่ยงการใช้เทคนิคพันรัดแน่นด้วยผ้ายืด และอย่าเก็บแมงกะพรุนที่ตายแล้วด้วยมือเปล่าหรือนำมาเล่น เพราะต่อมพิษยังสามารถปล่อยพิษได้