ชัยวัฒน์ นำทีม พญาเสือ ยึด ไม้พะยูง ซุกน้ำ เตรียมส่งนอกประเทศ

ชัยวัฒน์ ผอ.สำนักอุทยานฯ นำทีม พญาเสือ ร่วม จนท.ป่าไม้ เข้ายึด ไม้พะยูง ซุกใต้น้ำ เตรียมส่งขายนอกประเทศ

เมื่อวันที่ (5 มิ.ย. 66) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานฯ นำทีม พญาเสือ และ ขอกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานสนาม ของสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) จัดคนมาซุ่มดูการขนย้ายไม้พะยูง ในพื้นที่ อ. กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังได้รับรายงาน ขบวนการค้าไม้พะยูง เครือข่ายมู่หลาน ยังลอบแปรรูปไม้พะยูง และนำไม้พะยูงผิดกฎหมายมาซ่อนไว้ เตรียมส่งให้นายทุนขายออกนอกประเทศ

เจ้าหน้าที่ป่าไม้หลายนายดักซุ่มตามพิกัดที่ได้รับมอบหมาย พื้นที่โดยรอบเป็นทุ่งนา มีกระท่อม 1 หลัง และมีบ่อน้ำลักษณะเป็นบ่อเลี้ยงปลา 4 จุด

จนท.ซุ่มดูอยู่นาน กระทั่งเข้าช่วงเย็นของอีกวัน (6 มิ.ย. 66) มีคนขับรถจักรยานยนต์เข้า-ออก ภายในพื้นที่จนเป็นที่สงสัย จึงรายงานต่อให้ จนท.ทีม พญาเสือ ทราบ

ราว 2 ทุ่ม มีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยมีคนเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 10 คน ลงไปในสระน้ำ มีรถเครน 6 ล้อ ยกไม้ อีก 1 คัน ขับเข้าไปในพิกัดดังกล่าวด้วย จนท.ทำการซุ่มดูกระทั่งกลุ่มคนเหล่านั้นขนไม้ขึ้นเต็มคันรถ และกำลังจะขับรถออกจากพื้นที่ จึงได้ทำการหยุดรถและขอตรวจสอบ

จนท. ตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบ ไม้พะยูง ซุกในรถกว่า 60 ท่อน กองอยู่ข้างล่างอีกจำนวนวนหนึ่ง และคาดว่าในบ่อน้ำ 4 จุดรอบกระท่อมก็มีไม้เช่นกัน

นายชัยวัฒน์ และ จนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พบกับเจ้าของแปลงที่ดิน ทราบชื่อ นายสม เพื่อขอตรวจสอบไม้พะยูง ซึ่งนายสมยินยอมให้ตรวจสอบด้วยความเต็มใจ พร้อมแสดงเอกสารการครอบครอบและซื้อขาย ราว 20 ชุด

และได้ร่วมกันตรวจสอบ ไม้ที่ถูกขนขึ้นจากสระน้ำของนายสม พบว่าไม้ดังกล่าวเป็น ไม้พะยูง บางท่อนมีลักษณะใหม่สดและเป็นไม้แก่นล่อน มีร่องรอยการถาก และเขียนระบุน้ำหนักแต่ละท่อนไว้ ตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้ไม่พบร่องรอยรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

สอบถามนายสมได้ความว่า ตนรับซื้อม้พะยูงจากที่ต่างๆ ท่อนละ 10,000 – 20,000 บาท แล้วแต่ความสวยงามของไม้ โดยคนขายจะนำไม้มาส่งให้ตนทุกครั้งที่กระท่อมหลังนี้

ซึ่งขณะ จนท. แสดงตัวเข้าตรวจสอบ นายสมได้ว่าจ้างแรงงานในหมู่บ้านจำนวน 7 คน พร้อมรถบรรทุก 6 ล้อติดเครน เตรียมขนย้ายไม้พะยูงส่งต่อให้นายทุนที่จะนำไปขายยังต่างประเทศ

นายสมอ้าง ได้ปรึกษาเรื่องเอกสารกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอออกใบเคลื่อนย้ายไม้แล้วก่อนหน้านี้

เบื้องต้น จนท. ได้ตรวจยึดของกลาง ไม้พะยูง ทั้งหมด 123 ท่อน ดังนี้

1. ไม้พะยูง ที่อยู่ข้างรถ จำนวน 16 ท่อน

2. ไม้พะยูง ที่อยู่บนรถ จำนวน 69 ท่อน

3. ไม้พะยูง ซุกซ่อนในน้ำ 38 ท่อน ง

4. รถบรรทุก 6 ล้อ ต่อเครน ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายไม้พะยูง

เพื่อตรวจสอบกับเอกสารการได้มา หากพบเอกสารสิทธิ์ไม่ตรงกับไม้พะยูงดังกล่าว จนท. จะดำเนินการตรวจยึดและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบเบื้องต้น พบ ขบวนการทำไม้ ดังกล่าวเป็นกลุ่ม เครือข่ายมู่หลาน ซึ่งก่อนหน้าที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายไม้ดังกล่าวได้มีการดำเนินการค้าไม้ภายใต้เครือข่ายอีกชื่อ และมีเครือข่ายค้าไม้ทั้งในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน

จนท.จะทำการตรวจสอบเพื่อตัดวงจรค้าไม้ผิดกฎหมายนี้ต่อไป