ภรรยาเล่านาทีชีวิต เอส กันตพงศ์ หัวใจหยุดเต้น ตอนนี้อาการยังวิกฤต

คิตตี้ ภรรยา เอส กันตพงศ์ เล่าถึงนาทีชีวิต สามีหยุดหายใจกระทันหัน ใช้เวลาปั๊มหัวใจยื้อชีวิตนาน 19 นาที แต่ตอนนี้อาการยังอยู่ขั้นวิกฤต

ส่งกำลังใจ “เอส กันตพงศ์” อาการยังวิกฤติ 

ลูกสาว นั่งเฝ้าพ่อ เอส กันตพงศ์ หลังวูบหมดสติ กลางงานปราศรัย

ล่าสุด วันนี้ (20 พ.ค. 66) “คิตตี้ คริสติน่า” ภรรยาของ เอส-กันตพงศ์ โพสต์อัปเดตอาการสามี ผ่านทางไอจีเป็นภาษาไทย ข้อความระบุว่า… 

สวัสดีค่ะ วันนี้ฉันอยากจะมาอัปเดตอาการของคุณเอสที่ผ่านมา ฉันและทางครอบครัว ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณเอส เนื่องจากทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าในตอนนี้อาการของเอส ยังอยู่ในวิกฤต

พวกเราเสียใจและหนักใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ส่วนวาเลนตินาก็ร้องไห้เรียกหาแต่พ่อตลอดเวลา แต่ฉันก็พยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อลูก

แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันกับครอบครัวจะต้องออกมาบอกรายละเอียดทั้งหมดของคุณเอส ซึ่งฉันรู้ว่าทุกคนกำลังรอฟังข่าวดีอยู่ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีข่าวดีเพราะว่าอาการป่วยของเขายังอยู่ในวิกฤต แต่ฉันพร้อมที่จะเปิดใจและพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้มากขึ้น

อย่างที่ทุกคนทราบก่อนเกิดเหตุ สามีของฉันได้ไปทำงานเป็นพิธีกร งาน Big Debate by Ch7 ที่ลานสยามพารากอน ขณะที่เขากำลังทำงาน หัวใจของเขาได้หยุดเต้นกะทันหัน และได้รับการทำ CPR ฉุกเฉิน และนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งใช้เวลานานมาก กว่าที่หัวใจของเขาจะกลับมาเต้นอีกครั้ง ได้รับ CPR ประมาณ 19 นาทีที่สยาม และทั้งหมดใช้เวลาถึง 45 นาที ที่ปั๊มหัวใจรวมบนรถฉุกเฉิน 

ฉันต้องขอขอบคุณทีมเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินที่ไม่ยอมแพ้ ในการช่วยชีวิตของคุณเอส และพี่ยาช่างแต่งหน้าของเขาที่ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขา ตัดสินใจแบบนี้น่าจะช่วยชีวิตเอส

ตั้งแต่ที่เขาได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล อาการของเขาก็ยังอยู่ในวิกฤต และมีอาการแทรกซ้อนที่หัวใจ วันก่อนหัวใจของคุณเอสก็มีปัญหาอีกครั้ง และแพทย์ก็ได้ทำการช่วยชีวิตไว้อีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นทางแพทย์ที่รักษาคุณเอสได้ออกมายืนยันแล้วว่าเขามีอาการหัวใจอักเสบแต่ยังไม่สามารถระบุอะไรได้มากกว่านี้

เนื่องจากอยู่ในกระบวนการและขั้นตอนของการรักษาอยุ่ แพทย์ได้แจ้งว่าต้องเฝ้าดูอาการของคุณเอสแบบ “วันต่อวัน” ซึ่งแพทย์ยังหาสาเหตุที่ชัดเจนและหาแนวทางรักษายังไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะต้องรักษาตัวที่ห้อง ICU นานแค่ไหน และจะฟื้นตัวเต็มที่ได้เมื่อไหร่

ตอนนี้ฉันอยากจะขอขอบคุณสำหรับน้ำใจทั้งหมดที่เราได้รับ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ฉันอยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยสามีของฉันโดยเฉพาะช่อง 7 ที่ช่วยเหลือและดูแลคุณเอส ทั้งเรื่องค่ารักษาและให้กำลังใจมาเรื่อยๆ เหมือนเป็นครอบครัวของตัวเอง เพราะเอสทำงานหนักและทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอเพื่อช่อง 7 มาตลอด เอสรักงานตัวเองมากๆ

และสุดท้ายขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่รักษาคุณเอสอย่างเต็มที่ และแฟนคลับกับเพื่อนๆ ทุกคน ที่ส่งกำลังใจมาให้ค่ะ ยังไงเราจะอยู่ข้างเอสตลอดและสู้ด้วยกัน

ตลิปอีจันแนะนำ
อุทาหรณ์ เงี่ยงปลาทิ่มมือ ถึงกับตัดนิ้ว!