รังสิมันต์ จี้ ตร. – รบ. เร่ง ล้างบาง จีนเทา แฉ เซาเซียนโป ตีซี้คนมีสี

15 ก.พ. สภาเดือด รังสิมันต์ จี้ ตร. – รบ. เร่ง ล้างบาง จีนเทา แฉ เซาเซียนโป ตีซี้คนมีสี

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่รัฐสภา รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณีทุนจีนสีเทาที่เกี่ยวพันธุรกิจของหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า จีนเทาที่ดังที่สุดในช่วงที่ผ่านมาคือ ตู้ห่าว ตนคิดว่าเรื่องนี้ “ปีศาจอยู่ในรายละเอียด” โดยเฉพาะเมื่อดูไทม์ไลน์ของการดำเนินคดี จะพบว่ามีความล่าช้าของการออกหมายจับและการตั้งข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ และข้อหาฟอกเงิน ซึ่งคนที่สำคัญที่สุด ที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการตำรวจ คือ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธาน ก.ตร. เห็นข่าวคดีนี้มาเป็นเดือนๆ แล้ว ถ้าจริงจังกับการปราบจีนเทาจริงๆ สามารถกำชับ ผบ.ตร. ให้กระตือรือร้นกว่านี้ได้แน่ แต่ในความเป็นจริง นายกฯ ก็ยังปล่อยให้มีการเตะถ่วงอยู่อย่างนี้

เป็นเพราะตู้ห่าวไปเกี่ยวกับหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยใช่หรือไม่ จึงมีข้อสงสัยว่าอาจเป็นการฟอกเงินด้วย นอกจากนี้ ตนขอแนะนำให้รู้จัก ‘เซาเซียนโป’ ที่ถูกตั้งข้อหาแจ้งข้อมูลเท็จ ในการออกบัตรประชาชนและเอกสารราชการ มีหมายจับอยู่ที่ จ.ปัตตานี ตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งมาจับไม่กี่เดือนก่อน พฤติกรรมของเซาเซียนโป คือชอบเข้าหาคนมีสีมีอำนาจ รายที่สำคัญชื่อว่า พล.อ. “ธ.” ที่มีข่าวว่า รับเงินจากจีนมาวิ่งเรื่องรถไฟกับรัฐบาล ตนคิดว่าตำรวจควรเรียกตัว ทั้ง พล.อ. “ธ.” และผู้สนับสนุนรายอื่นๆ มาสอบปากคำด้วยเช่นกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับจีนเทาบ้าง

นอกจากนี้ จีนเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายไม่ได้จำกัดวงอยู่เฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น ยังมีประเภทที่มาตั้งฐานที่มั่นอยู่ติดกับชายแดนไทย เพื่อหลอกเอาคนไทยไปเป็นแรงงานให้กับมิจฉาชีพของตัวเอง จากสถิติในช่วงปี 2563 – 2564 มีจีนเทาผ่านแดนเข้ามาแบบนี้กว่า 7 พันคน เช่น ‘หยูซินฉี’ ที่ระบุตัวเองว่าเป็นประธานสมาคมแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘มณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย’ อ้างว่าให้บริการแนะนำการลงทุน ช่วยคนจีนจดทะเบียนบริษัทในไทยนัดพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง ช่วยเรื่องขอวีซ่า แต่เมื่อตรวจสอบฐานข้อมูลในไทย ไม่พบการจดทะเบียนสมาคมแห่งนี้

เรื่องพวกนี้ผู้ที่ต้องรู้ข้อมูลดีที่สุด ต้องเตรียมการป้องกันอย่างดีที่สุดไม่ให้มันเกิดขึ้น ก็คือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างจุดขายเรื่องความมั่นคงมาตลอด

รังสิมันต์กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นจีนเทา หรือเมียนมาเทา กรณีเหล่านี้คือปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่ลุกลามบานปลายอยู่ในภูมิภาคนี้มานับสิบปี โดยมุ่งเป้าในการกอบโกยมาที่พี่น้องประชาชนชาวไทย และอีกหลายกลุ่มถึงกับเจาะทะลวงเข้ามาถึงภายในประเทศ เปิดบ่อนการพนัน เปิดตลาดยาเสพติด ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือโฆษณาหลอกลวงต่างๆ สารพัด ไปจนถึงค้าประเวณี ค้าอวัยวะ ผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอาชญากรรมพวกนี้ก็คือคนไทยดีๆ ที่พยายามทำมาหากิน คือเยาวชนที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์

แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุด คือบางคนที่มีส่วนสมคบคิด อนุญาตให้อาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้เจริญงอกงาม กลับเป็นคนไทยด้วยกันเอง นี่คือพวก ‘ไทยเทา’ ที่แฝงตัวอยู่ทั้งในตำรวจ ทหาร ศาล และราชการทุกสำนัก สูบเอาผลประโยชน์จากคนไทยกันเอง แล้วเอาไปแสวงหาอำนาจ ตราบใดที่ไทยเทาพวกนี้ยังมีอยู่ อาชญากรรมทั้งในชาติและข้ามชาติที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง ก็ไม่มีวันที่จะหายสาบสูญไปด้วย

คลิปอีจันแนะนำ
ธุรกิจจีนเทา เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว