จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถทัวร์ บนถนนมิตรภาพ ขาออก ขอนแก่น- กทม. จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 เม.ย.64) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ รพ.สิรินทร ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแฮด ขนส่งจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกระเช้าจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมและมอบให้กับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น
ซึ่งผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินทร 3 ราย ถูกไฟไหม้ที่แขน ใบหน้า และใบหู อาการโดยรวมอยู่ในขั้นปลอดภัยเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ พร้อมทั้งพูดคุยและให้กำลังใจกับผู้บาดเจ็บและครอบครัวด้วย ยืนยันให้การช่วยเหลือทุกครอบครัวตามสิทธิเต็มที่
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กำชับลงมายังพื้นที่ให้มีการตรวจสอบช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวและผู้บาดเจ็บทุกราย ซึ่งทาง คปภ.และบริษัทประกันภัยรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมร่วมกันและสรุปค่าเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตรายละ 1.1 ล้านบาท ตามสิทธิที่จะได้รับจากประกันภัยและ พ.ร.บ.รถ
ขณะนี้ทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ นางสาวสุกัญญา เกดหอม อายุ 20 ปี ชาวอุดรธานี ส่วนที่เหลืออีก 4 รายยังไม่ทราบชื่อ อายุ และที่อยู่ อยู่ระหว่างการตรวจอัตลักษณ์บุคคล ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 12 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินทร และที่โรงพยาบาลขอนแก่น
ซึ่งในทางคดีขณะนี้ทราบว่าได้มีการแจ้งข้อกับพนักงานขับรถแล้ว และทราบรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นใคร โดยจะต้องคัดแยกรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้ที่รอดจากเหตุการณ์ ก็จะเหลือรายชื่อของผู้เสียชีวิต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไป
ขณะนี้ที่ห้องเก็บศพ รพ.ศรีนครินทร์ ยังไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตมาติดต่อรับศพหรือแสดงตัวเป็นญาติแต่อย่างใด ซึ่งตามขั้นตอนหากมีญาติผู้เสียชีวิตมาติดต่อรับศพก็จะทำการตรวจดีเอ็นเอของญาติและผู้เสียชีวิตเพื่อส่งมอบศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแฮด กล่าวว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายพัศดี คำคอน อายุ 48 ปี พนักงานขับรถทัวร์โดยสารคันเกิดเหตุ มาสอบปากคำ โดยทราบว่าขณะที่เพลิงลุกไหม้ นายพัศดีได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นใส่ไฟที่ลุกไหม้ พร้อมกับให้ผู้โดยสารลงจากรถ ส่วนการตรวจร่างกายหาสารเสพติด โดยผลออกมาไม่พบสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และจากรายงานพนักงานสอบสวนระบุว่ารถทัวร์คันดังกล่าว ได้เติมเชื้อเพลิงประเภทก๊าซ NGV โดยก่อนเกิดเหตุได้แวะเติมที่สถานีบริการในพื้นที่ตำบลสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น ก่อนจะขับมาได้ประมาณ 30 กิโลเมตร แล้วเกิดเหตุสลดขึ้น จากนี้จะให้ขนส่งจังหวัดขอนแก่น มาตรวจสอบว่า รถทัวร์คันนี้ได้มีการขอจดทะเบียนติดตั้งก๊าซ NGV ถูกต้องตามกฎกระทรวงคมนาคมหรือไม่
