จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถทัวร์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 เม.ย.64 ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอีก 12 ราย ซึ่งผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินธร 3 ราย ถูกไฟไหม้ที่แขน ใบหน้า และใบหู อาการโดยรวมอยู่ในขั้นปลอดภัยเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ
ประกันเยียวยา ผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ ไฟไหม้รถทัวร์ รายละ 1.1 ล้านบาท
จากการสอบถาม นาย ปัญจพล อายุ 19 ปี ชาว อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมาหาแม่ที่ จ.อุดรธานี ได้ 3 สัปดาห์ จึงได้ซื้อตั๋วกลับเพื่อไปลง จ.สระบุรี โดยขึ้นรถเที่ยว 21.00 น. ที่ บขส.อุดรธานี ตนได้ที่นั่งชั้น 2 บริเวณกลางๆ เกือบหน้ารถ ผู้โดยสารเต็มรถ ระหว่างทางตนก็นอนมากับรถ ก่อนรถจะแวะเติมแก๊สที่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับพักรถ 20 นาที ก่อนจะขับออกมาเพื่อเดินทางต่อกระทั่งได้ยินเสียงยางระเบิดขึ้น 1 ครั้ง และเกิดไฟลุก
ตอนแรกตนคิดว่าเป็นเสียงจากข้างนอก แต่เห็นคนเขาวิ่งมาจากข้างหลัง ตนเลยลุกวิ่งตาม แล้วก็เห็นจากหางตาว่าไฟลุกขึ้นบริเวณด้านหลัง ก็คิดอีกว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์ขัดข้อง จนเกิดไฟไหม้ ไม่ได้คิดเลยว่าเหตุการณ์มันจะรุนแรง
รู้ตัวอีกทีก็ถูกผลักลงมาข้างล่างแล้ว ล้มกันลงมา แล้วตนก็สูดแก๊สเข้าไปจนแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เกือบจะหมดสติ พูดอะไรไม่ได้ รู้เพียงแค่หนีเข้าป่าอย่างเดียวแล้วค่อยมานั่งพัก
ตอนนั้นประตูฉุกเฉินอยู่ด้านหลังตน พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างเดียว ลงบันไดทางที่ขึ้นมา (ประตูด้านหน้าข้างคนขับ) เพราะข้างหลังไฟมันลุกแล้วตนไม่กล้าหันไปมอง
ซึ่งในช่วงที่วิ่งลงมาชั้น 1 นั้นทุกคนต่างเบียดเสียดกันบางคนล้มบ้าง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง เมื่อวิ่งเข้าไปในป่าแล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นอีกครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาดับเพลิง และช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลและแจ้งแม่ให้ทราบและแม่ก็เดินทางมาหาที่โรงพยาบาล
อาการเบื้องต้น นาย ปัญจพล เล่าว่า ตนล้มพอดีในจังหวะที่เกิดระเบิด ตนเลยโดนไม่เยอะมาก
ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกราย ชาว จ.สกลนคร เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เดินทางมากับแฟน จะไปหาสมัครงานที่ กทม.ตอนเกิดเหตุนั้นตนเองและแฟนพยายามออกจารถเพื่อเอาตัวรอด โดยนั่งอยู่บริเวณเบาะช่วงกลางทำให้ใกล้กับประตูทางออก แต่ในช่วงนั้นมีการระเบิดและมีไฟลุกลามไหม้แขนตนเอง ส่วนแฟนโดนที่แขนและขารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น
อีจันขอให้ผู้ประสบเหตุหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วนะคะ