
เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง..
(14 มิ.ย. 68) พระราชวังบักกิงแฮม ได้ประกาศว่า เดวิด เบ็คแฮม ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ได้รับการสถาปนาเป็นอัศวิน (Knighthood) จากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สำหรับความอุทิศตนให้กับกีฬาและการกุศล

สำหรับรางวัลเกียรติยศนี้ ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในประเทศอังกฤษ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการยกย่องนักกีฬาอันโด่งดังและผลงานด้านสังคมในประเทศ ทั้งนี้ ด้วยเกียรติยศดังกล่าว วิคตอเรีย เบ็คแฮม ภรรยาของจึงได้ใช้ชื่อ “เลดี้ เบ็คแฮม” มาเป็นชื่อปัจจุบันอีกด้วย
โดย เดวิด เบ็คแฮม ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การเติบโตในลอนดอนตะวันออกกับพ่อแม่และปู่ย่าตายายผู้รักชาติ และภาคภูมิใจในความเป็นอังกฤษ ทำให้ฉันไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะได้รับเกียรติเช่นนี้”

สำหรับ เดวิด เบ็คแฮม วัย 50 ปี ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค โดยเขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งด้วยการสร้างสถิติใหม่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเบ็คแฮมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 6 สมัย ตลอดระยะเวลา 9 ปี อีกทั้งยังเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ลงเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครบ 100 นัด และเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกได้ใน 4 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ นอกจากความสำเร็จทางเส้นทางอาชีพฟุตบอลแล้วนั้น เบ็คแฮม ยังคงเป็นทูตของ UNICEF กองทุนเพื่อเด็กของสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2548

สำหรับ เดวิด เบ็คแฮม เป็นส่วนสำคัญของกลุ่ม “Class of 92” ซึ่งเป็นกลุ่มนักเตะดาวรุ่งที่มีความสามารถสูง ที่ก้าวขึ้นมาเป็นรากฐานของความยิ่งใหญ่ในสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 ซึ่งจุดสุดยอดนั้นคือการที่สโมสรสามารถคว้าทริปเบิลแชมป์ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในปี 1999 ได้แก่ พรีเมียร์ลีก, ถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก และเอฟเอคัพอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เบ็คแฮมได้ผันตัวสู่เส้นทางนักธุรกิจ โดยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอล Inter Miami ใน MLS สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูล : ESPN