โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์วันนี้ ช้างศึก ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 112 ของโลก มีคิวลงสนามเป็นนัดที่สอง พบกับ ทีมชาติเอสโตเนีย ทีมอันดับ 115 ของโลก ที่สนามอา เลอ ค็อก อารีน่า กรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เวลา 23.00 น. ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
สำหรับทีมชาติไทยนั้นกำลังตกอยู่ในกระแสดราม่าอย่างรุนแรง หลังพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติจอร์เจีย 8-0 โดยแฟนบอลส่วนใหญ่ตั้งคำถามถึงการบริหารจัดการของสมาคมฟุตบอลที่ไม่จัดผู้เล่นชุดฟูลทีมเดินทางไปแข่งขัน เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลในไทยลีกที่ก็โดนด้วยเช่นกันถึงกรณีที่ไม่ปล่อยผู้เล่นไปแข่งขันในนามทีมชาติ รวมไปถึงการเดินทางไปแข่งขันของทีมชาติไทยในครั้งนี้ที่ดูจะไม่ค่อยสะดวกสบายนัก
สภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีม เริ่มกันที่ฝั่งเจ้าบ้าน เอสโตเนีย ที่พึ่งจะเปิดบ้านพ่ายให้กับ อาเซอร์ไบจาน ในฟุตบอลยูดร 2024 รอบคัดเลือก 0-2 เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. 66 ทำให้พวกเขาตกรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เป็นที่แน่นอนแล้ว หลังเก็บได้เพียง 1 แต้ม จากการลงเล่น 6 นัด นอกจากนี้ผลงานการลงเล่นตลอดปี 2023 ของทีมชาติเอสโตเนีย ถือว่าย่ำแย่มาก โดย 7 เกมหลังสุดยังไม่ชนะใครเลย แถมยังยิงประตูไม่ได้อีกด้วย
โทมัส เฮแบร์ลี กุนซือทีมชาติเอสโตเนีย เผยว่า “การเจอกับทีมชาติไทยไม่ใช่งานง่าย เราต้องปรับปรุงการเล่น และแก้ไขสไตล์ในทุกๆด้าน แม้ทีมชาติไทยจะพึ่งพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ให้กับทีมชาติจอร์เจีย แต่เราก็ยังคาดเดาพวกเขาไม่ได้ และเชื่อว่าเกมนี้พวกเขาจะสู้อย่างถึงที่สุด ผมไม่เคยเห็นวิธีการเล่นของทีมชาติไทย ดังนั้นมันไม่ง่ายเลย” กุนซือชาวสวิตเซอร์แลนด์กล่าว
เกมนี้ เอสโตเนีย จะจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เพื่อหวังคว้าชัยชนะให้ได้อีกครั้ง นำโดย เฮนรี่ อานิเยร์ อดีตกองหน้าของสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันเล่นอยู่กับ ลีแมน เอฟซี ทีมในศึกฮ่องกง พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ยังมี คาร์ล เฮน ผู้รักษาประตูดาวรุ่งวัย 21 ปี ที่เล่นให้กับ อาร์เซน่อล ทีมดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ส่วนทีมชาติไทย มาโน่ โพลกิ้ง ยืนยัน จะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่มีลงสนาม หวังกู้ศรัทธาแฟนฟุตบอลไทย “เกมที่แล้วมันไม่ใช่เกมที่ดีของเรา แม้จะมีหลายปัจจัยที่เราไม่อยากเอามาเป็นข้ออ้าง ตอนนี้เราพยายามฝึกซ้อม ปรับปรุง และแก้ไขข้อผิดพลาด เอสโตเนีย เป็นทีมที่ดี และเล่นได้ดีในเกมที่ผ่านมาแม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ แต่เราจะโฟกัสไปที่ข้อผิดพลาดของเรา ทั้ง จอร์เจีย และ เอสโตเนีย ต่างเป็นทีมที่ดีโดยเฉพาะเรื่องร่างกายที่เหนือกว่าเรามาก ซึ่งเราจะเล่นตามแนวทางที่เราถนัด คือเน้นครองบอล และไม่เสียการครองบอลง่าย เรามั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าเกมก่อน”
สำหรับ 11 ผู้เล่นที่จะได้ลงสนาม ผู้รักษาประตู กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, กองหลัง กฤษดา กาแมน (กัปตันทีม), เอเลียส ดอเลาะ, ทริสต็อง โด, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ กองกลาง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พิชา อุทรา, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, บดินทร์ ผาลา กองหน้า ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
ทั้งนี้ ทีมชาติไทยเคยพบกับทีมชาติเอสโตเนียมาแล้ว 2 ครั้ง ในฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ เมื่อปี พ.ศ. 2543 และ 2547 ซึ่งในเวลา 90 นาที ทัพช้างศึกเอาชนะได้ 1 นัด เสมอ 1 นัด สำหรับนัดที่เสมอ ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษและเป็นทีมชาติไทยที่เอาชนะไปได้