ส่องแคนดิเดต นายกฯ บอลไทย ใครเหมาะสมสุด ?

ส่องแคนดิเดต นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลัง “บิ๊กอ๊อด” เตรียมหมดวาระ ต้นปี 2567 ใครเหมาะสมสุด

เหลือเวลาอีกประมาณ 6 เดือนเท่านั้น ตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยก็จะหมดวาระในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสมาคมถูกตั้งคำถามมากมายในแง่ต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการ ผลงานของทัพช้างศึกทุกชุด และการบริหารจัดการสโมสรในไทยลีกที่ล่าสุดมูลค่าลิขสิทธ์ถ่ายทอดสดร่วงลงมาอย่างหนัก เหลือเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น ส่งผลต่อรายได้โดยตรงกับบอลลีกสูงสุด และเงินสนับสนุนที่สโมสรต่าง ๆ จะได้รับ 

จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดนี้ ทำให้แฟนฟุตบอลไทยหลายคนตั้งความหวังไว้ที่ประมุขบอลไทยคนใหม่ ที่จะเข้ามาแก้ปัญหา รวมถึงยกระดับวงการฟุตบอลไทยให้พัฒนาก้าวหน้าไปให้ได้ โดยเฉพาะฟุตบอลโลกที่เป็นเป้าหมายหลัก ส่วนบอลระดับสโมสร หรือไทยลีกนั้น คือการทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์กลับมามีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพื่อการกระจายรายได้ให้กับสโมสรในทุกระดับชั้น   

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับผู้ที่จะลงสมัครท้าชิงตำแหน่งเก้าอี้ประมุขบอลไทยนั้น ชัดเจนแล้วว่า บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนปัจจุบัน จะไม่ลงแข่งขันเพื่อรักษาเก้าอี้เป็นสมัยที่ 3 ส่วนแคนดิเดตนายกคนอื่น ๆ ที่พร้อมลงชิงเก้าอี้นายก ส.บอลไทย จะมีใครบ้างนั้น อีจัน รวบรวมมาให้แล้ว 

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ  

คนแรกเชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก นวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง นักธุรกิจหญิง ที่คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ทำให้หลายคนรู้จัก มาดามแป้ง มากขึ้น และในปัจจุบันเจ้าตัวยังดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุบอลชายทีมชาติไทย พร้อมกับเป็นประธานสโมสรฟุตบอล การท่าเรือ อีกด้วย มาดามแป้ง ได้ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย แทนที่ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 

พร้อมกับได้รับเสียงสนับสนุนแน่นอนแล้วจากสองสโมสรใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ เนวิน ชิดชอบ และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ของ ปวิณ ภิรมย์ภักดี 

“พอลลีน” พาลินี งามพริ้ง 

หากพูดชื่อ พอลลีน งามพริ้ง หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าเขาคือใคร แต่ถ้าบอกว่า พินิจ งามพริ้ง คงจะร้องอ๋อกันบ้าง พอลลีน หรือ พินิจ งามพริ้ง อดีตประธานชมรมเชียร์ไทย ได้ประกาศตัวพร้อมลงสมัครชิงเก้าอี้นายกฯ บอลไทย ชูนโยบายภายใต้แนวคิด Football Transformation เพิ่มรายได้ จัดหา และดูแลผลประโยชน์ของทุกสโมสรอย่างเท่าเทียม ปราศจาคผลประโยชน์ทับซ้อน ขยายตลาด กลุ่มผู้ชม และร่วมมือรัฐบาลพัฒนาเยาวชน ผ่านกลไกสโมสร   

“บังยี” วรวีร์ มะกูดี 

อดีตนายกสมาคมฟุตบอลไทย 3 สมัยก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าพร้อมกลับมาทำหน้าที่ประมุขบอลไทยอีกครั้ง โดยจะสมัครลงชิงเก้าอี้อย่างแน่นอน พร้อมกับสับผลงานของทีมบริหารชุดปัจจุบันว่าล้มเหลว ผลงานของทีมชาติไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่การกลับมาทวงตำแหน่งอีกครั้งของ “บังยี” นั้น ก็อาจติดขัดปัญหาบางอย่าง ทั้งเรื่องการถูกฟ้องร้องจากสมาคมฯ การถูกแบนจากทางฟีฟ่า รวมถึงเกณฑ์อายุผู้สมัครชิงตำแหน่งที่ระบุไว้ว่าห้ามเกิด 70 ปี นั้น เจ้าตัวจะทำการยื่นศาลเพื่อขอความคุ้มครอง เพราะเชื่อว่ากฎข้อบังคับดังกล่าวนั้นไม่เป็นสากล 

“เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน 

เพชรฆาตหน้าหยก อดีตยอดดาวยิงของทีมชาติไทย ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศขออาสาลงชิงเก้าอี้นายกฯ บอลไทยเช่นเดียวกัน โดยชูนโยบายเด่นจะพาทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้ภายใน 4 ปี หากทำไม่ได้จะขอลาออกทันที แต่ล่าสุดหลังจากที่ มาดามแป้ง ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เดอะตุ๊ก ก็ได้ประกาศถอนตัวทันทีพร้อมให้เหตุผลว่า มาดามแป้ง คือคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด โดยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพื่อช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น แต่จะมีการเปลี่ยนใจอีกครั้งหรือไม่ต้องรอติดตาม 

กิตติรัตน์ ณ ระนอง 

อดีตรองนยกรัฐมนตรี และอดีตผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย แม้จะไม่ได้ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็อยู่ในข่ายที่ถูกพูดถึง หลังจากที่ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยบอกไว้ว่า “คุณกิตติรัตน์เหมาะสมที่จะนั่งเก้าอี้นายกฯบอลไทยเพราะมีคุณสมบัติครบ” ด้านเจ้าตัวยังไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้แต่อย่างใด คงต้องรอการอัปเดตจากเจ้าตัวอีกครั้ง  

สำหรับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศ และ สภากรรมการบริหาร จะมีขึ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ได้แก่  

  • ทีมจากไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีม 

  • ทีมจากไทยลีก 2 จำนวน 18 ทีม 

  • ทีมที่ได้อันดับ 1-5 จากไทยลีก 3 แต่ละโซน จำนวน 30 ทีม 

  • ทีมที่ชนะเลิศในลีกสมัครเล่น 1 ทีม 

  • ทีมชนะเลิศและอันดับ 2 ในฟุตซอลไทยลีก จำนวน 2 ทีม