วันนี้ (3 เม.ย.67) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152
ช่วงหนึ่งของการอภิปราย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ช่วงหนึ่งว่า ปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลต้องแก้ เพราะสร้างความเสื่อมให้กับรัฐบาล เซาะกร่อนบ่อนทำลายรัฐบาลมากที่สุด คือ การสร้างยุติธรรม 2 มาตรฐาน เป็นผลงานชิ้นเดียวที่ทำได้เร็วที่สุด สำเร็จและจับต้องได้มากที่สุด นี่คือคำตอบว่ารัฐบาลนี้เพื่อใคร
นายจุรินทร์ อภิปรายว่า การสร้างนักโทษพันธุ์ใหม่ ที่แม้แต่เทวดายังต้องยอมให้ใช้ชื่อ ตั้งแต่เรื่อง คุกทิพย์ ปลอกคอทิพย์ เลี้ยงหลานทิพย์ สำนึกทิพย์ ไปจนกระทั่งได้คืบเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ได้ถ้านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รู้เห็นเป็นใจ เป็นคนไทยเข้าใจเรื่องบุญคุณต้องทดแทน แต่ต้องไปตอบแทนกันส่วนตัว ไม่ใช่เอาบ้านเมืองไปตอบแทน คนหนึ่งได้อำนาจ อีกคนไอ้อภิสิทธิ์จากการได้อำนาจ มันอาจยุติธรรมกับคนสองคนแต่ไม่ยุติธรรมกับประเทศ
คนไทยไม่อยากเห็นรัฐบาลนี้ก่อกรรมเพิ่ม ขอให้โอกาสนี้ ถามนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ และขอให้นายกตอบด้วยตนเองด้วย ในฐานะที่นายกฯ เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร เป็นผู้คุมเสียงค้างมากในสภา และเป็นผู้ประกาศนโยบาย 1.นายกรัฐมนตรีมีนโยบายจะปล่อยให้เกิดการนำคุกทิพย์โมเดลที่ทำลายหลักนิติธรรมยับเยินมาใช้อีกหรือไม่ 2.ระเบียบใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะเข็นออกมา เรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถูกคุมขังนอกเรือนจำ หรือแปลง่าย ๆ คือให้ไปติดคุกที่บ้านได้ เปิดโอกาสให้ไปติดคุกที่บ้านได้ จะรวมคดีทุจริต รวมคดีมาตรา 157 ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้ไปติดคุกที่บ้านแทนเรือนจำได้ด้วยหรือไม่ 3.เรื่องการนิรโทษกรรมขอถามนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้คุมเสียงข้างมากในสภา และในฐานะตั้งหัวโต๊ะคณะรัฐมนตรี ที่ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ก็เพราะนิรโทษกรรมเป็นดาบสองคม ถ้าใช้ให้ถูกก็จะเป็นการสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ แต่ถ้าใช้ผิดทางก็จะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งแตกแยกครั้งใหม่ให้กับประเทศได้ ขอถามว่ารัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริต และคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยหรือไม่
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า อยากเรียนให้ทราบว่า ท่านทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ ท่านทักษิณเข้ามาสู่กระบานการยุติธรรม เพียงวันเดียวอนุญาตให้ท่านทักษิณไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ถ้าเป็นการกระทำในรัฐบาลของท่าน ท่านพูดอีกแบบ แต่พอมาอีกยุคหนึ่งไม่ใช่รัฐบาลของท่าน ท่านกล่าวว่า กำลังทำลายกระบวนการยุติธรรม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กฎหมาย กฎกระทรวง ที่ออกอยู่ในสมัยท่าน (รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์) ท่านบอก “ติดคุกทิพย์” ผมถือว่าเลวร้ายมาก เหตุกฎกระทรวงที่ออกมานี้ไม่ได้ให้อำนาจ กรมราชทัณฑ์ รมว.ยุติธรรม ใช้ดุลพินิจเลย แต่ให้ใช้ความเห็นของแพทย์เท่านั้น ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ไปตามกระบวนการยุติธรรมกฎหมาย ในสมัยที่ท่านจุรินทร์เป็นรัฐบาล กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 55 วรรคท้าย ทุกคนที่ไปตามกระบวนการนั้น เราก็ดำเนินการตามกฎหมายเท่าเทียมกัน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ผมไม่มีอะไรกับท่านนะ เรื่องกฎกระทรวงระเบียบออกตามมาตรา 33 มาตรา 34 ไปคุมขังอื่น ให้ออกตามระเบียบ ท่านถูกลงโทษ กฎหมายกำหนด ไม่ใช่กรมราชทัณฑ์กำหนด เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน อยากให้เราฟังความให้รอบด้าน