มวลชน “รวมพลังแผ่นดิน” จี้ “อุ๊งอิ๊ง” ลาออก

จตุพร-เสรีพิศุทธิ์-ปานเทพ นำทัพมวลชน “รวมพลังแผ่นดิน” จี้ “อุ๊งอิ๊ง” พ้นนายกฯ – พรรคร่วมถอนตัว – นัดรวมม็อบ 28 มิ.ย. นี้

วันนี้ (20 มิ.ย. 68) กลุ่มแกนนำนักเคลื่อนไหวทางการเมือง “รวมพลังแผ่นดิน” จัดโต๊ะแถลงข่าวนัดชุมนุมใหญ่ แสดงจุดยืนต่อรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร

นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์การเมืองไทย เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าบรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัต โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา มิได้มีเจตนายึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชน จนเกิดวิกฤตการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคงอย่างกว้างขวาง เหตุจากที่ผู้ไม่นำพา ไม่นับถือกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองตามอำเภอใจ

ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อคนไทยทั้งแผ่นดิน แต่นายกรัฐมนตรี คณะฯ หน่วยงานรัฐ ไม่นำพาต่อการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะแพทองธาร เป็นผู้ไร้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ได้กระทำการลักษณะเป็นปฏิปักษ์ เข้าข่ายต่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ มีพฤติการณ์ตามประเด็นข่าวในเชิงสมคบคิดและแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางตอบสนองความต้องการของอริราชศัตรู ที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำละเมิดอำนาจอธิปไตย ยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ทรยศความไว้ใจของประชาชนไทย ขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ขณะเดียวกัน ฟากพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่ถอนตัวการจับมือรัฐบาลแพทองธาร อาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทำการกับนายกฯ มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงขอให้แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาล ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที เพราะถือสิ้นความชอบธรรมแล้ว

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า วันนี้มาในสถานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินและบ้านพระอาทิตย์ ยืนยันว่าเราจะสามัคคีกับรัฐบาลที่ปกป้องชาติเท่านั้น ดังนั้นขอเน้นย้ำว่า ประชาชนทั้งหมดสามัคคีในการป้องกันแผ่นดิน แต่เห็นว่าภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ เมื่ออยู่นอกประเทศเราก็ต้องกำจัดผู้เป็นมิตรกับอริราชศัตรู เมื่อรัฐบาลถูกอัดคลิปเสียงกับผู้นำกัมพูชา และนายกฯแพทองธาร ระบุว่า อย่าฟังแม่ทัพภาคที่ 2 เพราะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา แม่ทัพภาคที่ 2 พูดออกไปไม่เ็นประโยชน์ต่อชาติทั้ง 2 ประเทศ และเราไม่เห็นด้วย ซึ่งหมายถึงแพทองธาร และฮุนเซน ฉะนั้น จะต้องสามัคคีกับคนรักชาติและไม่ขายชาติเท่านั้น ดังนั้นขอยืนยันว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินและบ้านพระอาทิตย์ พร้อมที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้

จตุพร พรหมพันธุ์ นักกิจกรรมการเมืองชื่อดัง กล่าวว่า บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ว่านายกฯ เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคนไทยและประเทศไทย นายกฯ เป็นคนของฝ่ายตรงข้าม ฉะนั้นเรื่องราวทั้งหมด เราไม่สามารถที่จะให้นายกฯ คนนี้ บริหารประเทศไทยต่อไปแม้แต้เพียงวันเดียว พรรคการเมืองใดที่ฟังคลิปเสียง และต้องการจะร่วมรัฐบาลต่อไป ถือว่าร่วมกันพายเรือไปขายชาติ ผมไม่เคยเจอนายกฯ ประเทศไหน ที่ตัดหัวแม่ทัพของตัวเองส่งบรรณาการให้กัมพูชาเหมือนประเทศไทย วันนี้เราอย่าติดกับว่ากัมพูชาเสี้ยมให้ไทยแตกแยก แต่คนไทยต้องสามัคคีเพื่อจัดการคนไทยที่ทรยศและขายชาติก่อน นี่คือสิ่งที่พยายามอธิบายว่ากัมพูชาต้องการอะไร ไทยไม่ต้องทำตาม

ไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์ส่วนตัว สนทนาเรื่องประเทศชาติ คุณไม่มีสิทธิ์พูดด้อยค่าแม่ทัพที่ไปรบแทนคนไทยด้วยลักษณะแบบนี้ ถ้าคลิปเสียงไม่หลุด เท่ากับไม่เป็นภัยความมั่นคงใช่ไหม ฉะนั้นเราเองมีภาระหน้าที่การปกป้องอธิปไตยของชาติ ที่ผ่านมากัมพูชาวางยุทธศาสตร์การต่อสู้ ประชาชนและกองทัพรู้เท่าทัน แต่รัฐบาลนอกจากหน่อมแน่มแล้ว ยังโง่อีกต่างหาก สถานกรณืขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาล อาจต่อรองในวันที่พรรคเพื่อไทยอ่อนแอที่สุด แต่ต้องรู้ว่ามันไม่ได้อยู่ที่เสียง ขณะที่สมัยทักษิณ 377 เสียงยังอยู่ไม่ได้ และคุณจะอยู่ได้อย่างไร

นายจตุพร กล่าวย้ำว่า เรามีหน้าที่ดูว่าใครอยู่ในเรือลำนั้น เมื่อพายเรือพาชาติไปขาย ประชาชนมีหน้าที่จมเรือนี้ พร้อมขอนัดหมายว่า วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 เวลา 16.00-21.00 น. นัดรวมตัวคนไทยแสดงพลัง ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การที่รวมตัวกันวันนี้เพื่อต้องการมา “หยุดระบอบทักษิณ” และเมื่อมาถึงเหตุการณ์ในวันนี้ ตั้งแต่อุ๊งอิ๊ง มาเป็นนายกรัฐมนตรี รู้สึกสงสารประเทศที่เอาคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถมาเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ผมจะต่อสู้ทักษิณ เพราะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่อุ๊งอิ๊งถือว่าเป็นลูกหลาน ไม่ว่าจะมีปัญหาส่วนตัวอะไรก็ตาม จะขอไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ประเด็นคลิปเสียงนี้ มันมองเป็นลูกหลานไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องของประเทศชาติ ย้ำว่า เอานายกฯ ที่ไม่มีความรู้ความสามารถออกไปให้ อีกทั้งประสบการณ์ทางการเมืองฮุนเซนมากกว่า 40 ปี แต่ “อุ๊งอิ๊ง” เทียบเป็นเด็กเมื่อวานซืน จะมาสู้กันได้อย่างไร

นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า ผมต้องการจะยืนยันว่าความชั่วนั้น ถ่ายทอดผ่านสายเลือดและ DNA นับตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นป้า และรุ่นลูกที่ DNA แรงขึ้นด้วยการขายชาติ โดยตั้งใจจะสื่อว่าขนาดใช้อำนาจมิชอบ ยังไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าโกงชาติแบบนี้จะหนักกว่าไม่มีแผ่นดินอยู่ และปรากฎการณ์นายกแพทองธาร ล้วนบ่งบอกว่าไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีวุฒิภาวะ สติปัญญาที่จะมาเป็นผู้นำของประเทศไทย

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ประชาชนทราบมาโดยตลอด และเมื่อถึงการโทรศัพท์คุยกับฮุนเซน และบอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา และฮุนเซนต้องการอะไรจะจัดการให้ ถือว่าเป็นคนชั่ว และถือว่าเป็นพฤติกรรมลับหลังประชาชน ต่อไปนี้คุณจะให้ประชาชนไว้ใจได้อย่างไร ชัดเจนว่า “อุ๊งอิ๊งออกไปได้แล้ว”