ภูมิธรรม” ลั่น ปรับ ครม.จบ สัปดาห์นี้ ไม่กังวล สว. ยื่นถอดถอน “นายกฯอิ๊งค์”

“ภูมิธรรม” ลั่น รักทุกกระทรวง หลังมีชื่อนั่ง มท.1 เชื่อ “เพื่อไทย” คุม มหาดไทย ดันนโยบายลงท้องถิ่นได้กว่าที่ผ่านมา รับเคยคุยนายกฯ เสนอดึงทหารมาช่วยงานกลาโหมเพิ่ม ยันปรับครม.จบ ภายในสัปดาห์นี้ ไม่กังวล สว. ยื่นถอดถอนนายกฯอิ๊งค์

วันนี้ (23 มิ.ย.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ เรื่องตำแหน่งใน ครม. เมื่อวานนี้นายกฯได้คุยกับ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ตนเชื่อว่าน่าจะจบได้เร็ว ภายในสัปดาห์นี้น่าจะเรียบร้อย

ขณะที่สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มในตำแหน่งใดหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ในแต่ละตำแหน่งจะมาหลังจากที่คุยกับพรรคร่วมจบ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าพรรคที่ร่วมรัฐบาลมีพรรคใดบ้าง ขณะที่ในส่วนพรรคเพื่อไทยก็คงมีการหารือกันในลำดับต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำแหน่งของพรรคเพื่อไทยจะได้กี่เก้าอี้หลังจากที่พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเสร็จ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนไม่ได้เข้าหาคือด้วย มีเพียงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม ระบุว่า ตอนนี้ตนก็ยังเหมือนเดิม ยังไม่ได้ถูกปลดออก และตนเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง โดยได้เพิ่ม มหาดไทย กลาโหม และยุติธรรม ซึ่งเป็นสายของความมั่นคงให้ตนได้มาดูแลอีก

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า ส่วนตัวจะไปนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรมหัวเราะก่อนตอบว่า ข่าวตนไปหลายกระทรวงแล้ว มหาดไทยพึ่งมาเมื่อวาน ก่อนหน้านี้เพิ่งไปอยู่กระทรวงพาณิชย์ แต่ตอนนี้ ยังไม่ชัดเจนต้องรอนายกรัฐมนตรีสั่ง

เมื่อถามย้ำว่า มีชื่อไปหลายกระทรวงแต่ชอบกระทรวงไหนมากที่สุด นายภูมิธรรม หัวเราะและยิ้มอีก ก่อนกล่าวว่า ”ผมรักทุกกระทรวง”

ส่วนในวันนี้ที่ มีกำหนดการจะไปมอบนโยบายที่กระทรวงมหาดไทยในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล เหมือนเป็นการดูที่ทำงานในอนาคตหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่าไม่เกี่ยว ตนไปในฐานะรองนายกฯ ที่กำกับดูแล ซึ่งถือเป็นโอกาสดี เพราะยังไงตนก็ต้องทำงานร่วมกับมหาดไทยอยู่แล้ว

ส่วนการเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผลงานจะดีขึ้นมากกว่าที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาที่ผ่านมา คือกระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่ต้องนำนโยบายทั้งหมด ไปผลักดันให้เกิดขึ้น ซึ่งกลไก ยังไม่สมบูรณ์ เป็นอุปสรรคที่จะนำนโยบายไปทำงาน และครั้งนี้พรรคเพื่อไทยคิดว่าจะสามารถ ผลักดันนโยบายไปถึงประชาชนได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่เศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนการปราบปรามยาเสพติด เรื่องปัญหาชายแดนและนโยบายต่างๆที่ยังค้างอยู่ จึงเป็นเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยอยากได้กระทรวงมหาดไทยกับคืนมา เพื่อให้นโยบายได้สามารถเดินหน้าอย่างเต็มที่ จึงเชื่อมั่นว่าน่าจะทำได้ดี และมั่นใจได้ดีว่าสองปีหลังจากนี้ ผลงานของรัฐบาลจะพลิกฟื้นได้อย่างดีมาก โดยที่ผ่านมาผลักดันนโยบายไม่ค่อยออก เพราะกลไกมหาดไทยเป็นกลไกที่สำคัญที่สุด

เมื่อถามต่อว่า ด้วยสถานการณ์ขณะนี้กังวลเรื่องนิติสงครามหรือไม่ เพราะขณะนี้มีการยื่นร้องรัฐมนตรีหลายเรื่อง นายภูมิธรรมระบุว่าไม่กังวล เพราะดูจากคดีที่มายื่นแล้วไม่มีเหตุผลและหลักฐานเพียงพอ และหลายประเด็นยื่นโดยไม่มีรายละเอียด และบางเรื่องไม่ใช่ความผิดโดยตรงของนายกรัฐมนตรี จึงไม่กังวลเรื่องนี้ และเวลาที่เหลือเป็นเวลาที่ต้องทำงาน ถ้าเราสามารถผนึกกำลังรัฐบาลให้เป็นเอกภาพทั้งหมดได้ และก็ต้องการความเห็นที่เป็นเอกภาพของคนไทยทั้งหมด หากสามารถร่วมมือกันได้ ก็จะสามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่พรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกัน ไม่ได้มีปัญหาที่ทำให้เป็นเงื่อนไข ให้เกิดความไม่แข็งแรงในประเทศ และตนยืนยันได้ว่า รัฐบาลกับกองทัพไม่ได้มีปัญหากัน และมีความเป็นเอกภาพ ที่ผ่านมาซึ่งได้มีการเชิญมาหารือก็ได้รับความร่วมมือมาโดยตลอด ไปจนถึงการปฏิบัติ

ส่วนการปรับรัฐมนตรีครั้งนี้  ปรากฏชื่อ นายพลฯที่จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม หันกลับมาถามสื่อทันทีว่า มาแทนผมหรือ

เมื่อถามต่อว่าหากมีการตั้งฝ่ายทหารมากำกับดูแลกระทรวงกลาโหมจริง พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ไม่มี เพราะตนก็เคยคุยกับนายกว่าจะดึงทหารเข้ามาช่วยเพิ่มขึ้น

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าตามโผ ที่ออกมามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่เป็นการมาช่วยตนทำงาน เพราะตนอยากได้ทีมงานที่มาช่วยทำให้แข็งแรง ซึ่งที่ผ่านมาตนยังไม่เคยตั้งที่ปรึกษา และผู้ช่วยรัฐมนตรีเลย

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีช่วยฯ จะเลื่อนขึ้นไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรี

สำหรับกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีและขอให้ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ให้ซ้ำเหมือนกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นคนละเรื่อง และคนละประเด็น กับกรณีของนายเศรษฐา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่สว.ต้องแก้เกี้ยว และหาทางปกป้องตัวเอง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ และนายกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และตนก็ไม่ได้อยากให้ใช้คำว่านิติสงคราม เพราะไม่ได้รบกัน แต่เป็นเรื่องของการใช้บทบาทในการฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นผู้รักษาความยุติธรรมต้องพิจารณาและตัดสินมาเท่านั้นเอง และเราก็ต้องชี้แจง ไปในประเด็นต่างๆ เหมือนตนที่เคยถูกฟ้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ทำหนังสือยื่นไป ไม่มีอะไรก็ทำหน้าที่ต่อ

เมื่อถามว่า แสดงว่ายังมั่นใจใน เสถียรภาพ ของรัฐบาลใช่หรือไม่ แม้บางพรรคจะกระโดดลงเรือออกไป นายภูมิธรรม ตอบว่า มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าจะเดินได้อย่างแข็งแรง หลังการปรับคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์นี้ เสร็จเรียบร้อย จะเห็นการทำงานในมิติใหม่ที่ต่างไปจากเดิม