“โรม” ซัด นายกฯอิ๊งค์ ทำตัวให้สมเป็นนายกฯ หลังแจงปมซื้อขายงูเห่าเหมือนย้ายที่ทำงาน 

การเมืองเดือด! “โรม” ซัด นายกฯอิ๊งค์ ทำตัวให้สมเป็นนายกฯ ปมซื้อขายงูเห่า ชี้ ทำการเมืองเสื่อมทั้งระบบ “จากแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า วันนี้กลับตีแต่หนู เก็บงูเห่าไว้”

เข้าหน้าฝนแล้วแต่การเมืองยังคงร้อนผ่าว!!! 

วันนี้ (22 พ.ค.68) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ห้สัมภาษณ์ประเด็นความขัดแย้งภายในรัฐบาลว่า วันนี้เห็นปัญหาบ้านเมืองแล้ว เองตนก็ไม่สบายใจ ทั้งความขัดแย้งภายในรัฐบาล จึงทำให้รู้สึกว่าปัญหาหลายๆ อย่างของประชาชน ไม่ได้รับการตอบสนอง กลายเป็นว่ารัฐบาลสนใจแต่ในเรื่องความมั่นคงของรัฐบาล แต่ก็ควรที่จะสนใจปัญหาของประชาชนด้วย การที่รัฐบาลพยายามส่งสัญญาณให้พรรคการเมืองบางพรรค ไปซื้องูเห่าและไปดูดงูเห่า มันอาจสร้างเสถียรภาพระยะสั้นให้กับรัฐบาลแต่เป็นการทำลายการเมืองอย่างเป็นระบบ และส่งผลกระทบระยะยาว

 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดอย่างชัดเจนว่าการซื้องูเห่าเหมือนเป็นการเปลี่ยนงานเหมือนเปลี่ยนที่ทำงานที่ใหม่ หากเปรียบให้พรรคการเมืองเป็นเหมือนบริษัทเป็นเรื่องที่รับไม่ได้  

“ในวันที่พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบ ก็โชว์แคมเปญไล่หนูตีงูเห่า แต่มาวันนี้ ถึงแม้มีงูเห่า ก็อยู่ร่วมกันได้ และให้หนูอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่จึงคิดว่าการทำการเมืองเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด จึงอยากฝากถึงนางสาวแพทองธาร ว่า เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ควรดำรงตนให้สมกับเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วควรผลักดันให้สังคมโดยเฉพาะการเมืองในสภาและประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ตราบใดที่นักการเมืองสามารถเปลี่ยนพรรคไปมาได้ โดยไม่ต้องมีอุดมการณ์ เพียงแค่ขอให้มีผลประโยชน์ตอบแทนกันอย่างหนำใจ จะนำไปสู่การเมืองที่เลวทราม และไม่ได้เป็นการเมืองที่ดีสำหรับสังคมไทยแน่นอน ” นายรังสิมันต์กล่าว  

สำหรับการปะทะเดือดในโซเชียลระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยนั้น เหมือนเป็นการตีปิงปองกันไปมาหรือไม่? นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องตีปิงปอง เป็นเรื่องที่ทุกคนไปคิดกันเอง แต่ขอยืนยันว่าการพูดของ นายกรัฐมนตรี เหมือนเป็นการรับรองว่าการซื้องูเห่าสามารถทำได้ แต่ถ้าหากนายกรัฐมนตรีมองว่ารับไม่ได้กับการซื้องูเห่า อาจมีการชะลอการซื้อตัว สส. ลง และแนวโน้มเรื่องดูดงูเห่าอาจจะชะลอลง เพราะไม่ได้รับประกันว่าทำไปจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 

“เพราะคนที่คิดเรื่องนี้ ว่าทำไปอาจจะไปแลกตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะดูดงูเห่าทุกวันนี้เหมือนการสะสม สส. และไปแลกตำแหน่งรัฐมนตรี นั่นหมายความว่าตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะความสามารถ ไม่ต้องสนใจเลือกตั้งไม่ต้องสนใจเจตจำนงของประชาชน ไม่ต้องสนใจ คำสัญญาและการเมืองที่ประชาชนอยากเห็น เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็ใช้เงินทอง ซื้อสัญญาใจไปดูด สส. กันมา แล้วเอาไปแลกรัฐมนตรี ทำการเมืองแบบนี้ประเทศไทยจะอยู่อย่างไรทุกอย่างมีราคามีมูลค่า ไม่มีสมการของประชาชนอยู่ข้างในเลย” นายรังสิมันต์กล่าว 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยบอกว่า ที่ สส. ย้ายพรรคเพราะปัญหาภายของพรรคประชาชนเองนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคงไม่รู้ว่าภายในพรรคประชาชนเป็นอย่างไร พรรคประชาชนพยายามทำการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเงินเดือนและ ผลประโยชน์ให้กับ สส. ดังนั้นสมาชิกในพรรคต้องทำงาน เสียสละตัวเองเพื่อการเมืองที่อยากเห็นด้วยซ้ำไป แต่ยอมรับว่า สส. บางคนอาจไม่ได้มีความเข้มแข็ง ทางความคิดความเชื่อ 

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้นจึงเป็นปัญหาของนักการเมืองคนนั้น และเป็นปัญหาของผู้ที่มาจูงใจ เมื่อมีสัญญาเกิดขึ้น ก็ยอมรับว่าเกิดปัญหางูเห่า แต่พรรคก็พยายามคัดกรองและทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ปัญหางูเห่าทุเลาลง และคิดว่ามาถูกทาง และต้องหาวิธีการปรับปรุงต่อไปพรรคน้อมรับ คำติชมจากทุกฝ่ายแต่ขอตั้งคำถามกลับไปว่าทำไมต้องมีผู้ซื้องูเห่า และคนเหล่านี้ไม่ต้องไปแคร์ภาพลักษณ์ หรือคำสัญญากับประชาชน ตนคิดว่าการเมืองแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน