หมอชลน่าน รับ ไม่พอใจ วันนอร์ หลัง เสนอ พิธา ไม่ผ่าน ย้ำ ยังสนับสนุน

หมอชลน่าน ยัน พท. ไม่ปล่อยมือก้าวไกล รับ ไม่พอใจ การทำหน้าที่ของ วันนอร์ เผย เตรียมหารือพรรคร่วม ก่อนโหวตนายกฯ

วันนี้ 20 ก.ค. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงทิศทางของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ภายหลังจากที่ประชุมสภา มีมติไม่ให้โหวตชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกล เป็นครั้งที่ 2 ว่า เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะจะกลายเป็นข้อผูกมัดในการโหวตเลือกนายกฯครั้งต่อไป เพราะคำวินิจฉัยของรัฐสภาเป็นการผูกมัดการใช้ข้อบังคับของตนเอง แต่ข้อบังคับนี้เป็นข้อบังคับเฉพาะ ในรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เท่านั้น ถ้าเราเปลี่ยนไปใช้ข้อบังคับนี้กับรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ผลผูกพันก็จะลดลงไป ดังนั้นการเดินหน้าของ 8 พรรค ก็ต้องเป็นไปตาม MOU ที่ทำร่วมกัน โดยให้สิทธิ์แกนนำคือพรรคก้าวไกล เป็นผู้เริ่มในทุกกระบวนการ ดังนั้นการพูดคุยต่อจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นผู้นัดหมาย เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 66) ทางเลขาธิการ ของพรรคพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้ มีการหารือกันเบื้องต้น และจะมีการนัดหมายต่อไป พร้อมยันว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่ปล่อยมือจากพรรคก้าวไกล

ส่วนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในการโหวตครั้งที่ 3 จะเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้

สำหรับการวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ที่มีกระแสข่าวว่า หลายคนไม่พอใจในการทำหน้าที่ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในเรื่องนี้ นายแพทย์ชลน่าน บอกว่า ไม่มีใครพอใจ ตนเองก็ไม่พอใจ ที่มีการวินิจฉัยออกมาแบบนี้ ตนพยายามหาทางออกให้ แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ก็ต้องยอมรับ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่พอใจ คือ เสียงข้างมากไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ตนมองว่า หลังจากนี้จะมีปัญหาในการทำหน้าที่ในที่ประชุมรัฐสภาอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อหมดวาระ ส.ว. ในวันที่ 11 พ.ค. 2567 ก็มีความชอบที่จะแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยยกเอาเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี นำเรื่องการเห็นชอบนายกรัฐมนตรีมากำหนดไว้ในสภาผู้แทนราษฎร

นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า มีความเป็นห่วงในเรื่องการเสนอชื่อซ้ำ และยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยตกอยู่ในภาวะลำบาก หากได้รับโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตามหลักการแกนนำจะต้องไปแสวงหาความมั่นใจว่า ก่อนเสนอเสียงจะผ่าน ไม่มีใครที่อยู่ในสมรภูมิที่แพ้แล้วไปรบ เพราะเราจะเสียคนของเราไปด้วย ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ตนเห็นสมควรด้วย อะไรที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถ้าเรามีสิทธิก็ควรจะต้องดำเนินการ สำหรับกรณีส.ว. บางคนระบุว่า ถ้าเพื่อไทยยังจับมือกับพรรคก้าวไกลจะไม่โหวตให้นั้น เราคงไม่รอให้มีมติออกมา อย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีแนวทางในการดำเนินการหาเสียงเพิ่ม เพราะถ้าบอกว่ามีจะหาว่าเราคิดไปก่อน

นายแพทย์ชลน่าน ระบุถึง กรณี พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ไม่ร่วมโหวตเมื่อวานนี้ ตนทราบว่ามีการออกไปก่อนเลยไม่ได้โหวต แต่ไม่ได้มีผลอะไร เพราะเป็นคนละประเด็นกับการเห็นชอบนายกรัฐมนตรี รวมถึงประเด็นที่มีการวิจารณ์พรรคก้าวไกลอยากหนักถึงขั้นให้ไปเป็นพรรคฝ่ายค้านนั้น เรื่องดังกล่าวนี้กระบวนการการทำงานร่วมกัน ความคิดความเห็น เป็นสิทธิเสรีภาพ จะถือเป็นความเห็นรวมไม่ได้ ส่วนที่บอกว่าอยากให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นความเห็นท่าน ตนไม่สามารถวิเคราะห์แทนได้

คลิปอีจันแนะนำ
นาที พิธา ออกจากสภาเพื่อนร่วมสภา ลุกยืนปรบมือให้กำลังใจ